ส่องผลกำไรไตรมาส 1 ปี 2564 10 หุ้นกลุ่มธนาคาร
ผ่านพ้นกันไปแล้วกับไตรมาส 1 ปี 2564 ที่ถือว่าเรายังอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเราคงต้องมานั่งรอลุ้น กับผลประกอบการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์กันในช่วงต้นเดือนหน้าเป็นต้นไป
.
แต่หนึ่งกลุ่มที่ไม่ต้องรอนาน เพราะมักจะประกาศผลประกอบการเร็วกว่าชาวบ้านเขา นั่นคือ หุ้นในกลุ่มธนาคาร ที่ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่สำคัญและบอกนัยทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
.
โดยในไตรมาส 1 ปี 2564 10 ธนาคารสามารถทำกำไรรวมกันทั้งสิ้นอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้าน ลดลงเล็กน้อยเพียง 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
.
ซึ่งธนาคารที่สามารถทำผลกำไรได้เพิ่มขึ้นในรอบนี้ มีอยู่ 3 แบงก์ คือ KBANK, SCB และ TISCO ในขณะที่อีก 7 แบงก์มีกำไรสุทธิที่ลดลงทั้งสิ้น
.
โพสนี้จึงจะมาสำรวจดูกันว่า หุ้นในกลุ่มแบงก์ทั้ง 10 ผลกำไรในไตรมาสที่ 1 เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร พร้อมทั้ง การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมาด้วย
.
(ข้อมูลเรียงลำดับตามแบงก์ที่มีมูลค่ากำไรสุทธิสูงสุด)
.
1. KBANK : ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 KBANK มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 10,626.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,251.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.44% จาก 7,374.88 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 4.35 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 KBANK มีราคาปิดอยู่ที่ 132 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 17% และมี PE เท่ากับ 10.61 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 1.82%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
2. SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 SCB มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 10,087.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 836.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.09% จาก 9,251 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 2.97 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 SCB มีราคาปิดอยู่ที่ 104.5 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 19% และมี PE เท่ากับ 13.05 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 2.16%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
3. BBL : ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 BBL มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 6,923.1 ล้านบาท ลดลง 747.41 ล้านบาท หรือลดลง 0.1% จาก 7,670.51 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 3.63 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 BBL มีราคาปิดอยู่ที่ 121.5 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 3% และมี PE เท่ากับ 13.5 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 2.02%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
4. BAY : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 BAY มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 6,504.86 ล้านบาท ลดลง 527.73 ล้านบาท หรือลดลง 0.08% จาก 7,032.59 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 0.88 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 BAY มีราคาปิดอยู่ที่ 37 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 18% และมี PE เท่ากับ 11.81 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 0.91%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
5. KTB : ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 KTB มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 5,578.44 ล้านบาท ลดลง 888.1 ล้านบาท หรือลดลง 0.14% จาก 6,466.53 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 0.4 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 KTB มีราคาปิดอยู่ที่ 11.3 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 2% และมี PE เท่ากับ 9.45 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 2.41%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
6. TMB : ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 TMB มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 2,781.96 ล้านบาท ลดลง 1,381.51 ล้านบาท หรือลดลง 0.33% จาก 4,163.46 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 0.0289 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 TMB มีราคาปิดอยู่ที่ 1.16 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 7% และมี PE เท่ากับ 11.06 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 3.78%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
7. TISCO : บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 TISCO มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 1,763.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.19% จาก 1,486.07 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 2.2 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 TISCO มีราคาปิดอยู่ที่ 101 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 14% และมี PE เท่ากับ 13.34 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 6.24%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
8. KKP : ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 KKP มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 1,462.68 ล้านบาท ลดลง 21.39 ล้านบาท หรือลดลง 0.01% จาก 1,484.07 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.73 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 KKP มีราคาปิดอยู่ที่ 60.75 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 17% และมี PE เท่ากับ 10.04 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 3.66%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
9. LHFG : บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 LHFG มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 560.49 ล้านบาท ลดลง 268.28 ล้านบาท หรือลดลง 0.32% จาก 828.77 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 0.027 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 LHFG มีราคาปิดอยู่ที่ 1.17 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 11% และมี PE เท่ากับ 11.97 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 3.41%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
10. CIMBT : ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
ในไตรมาส 1 ปี 2564 CIMBT มีผลกำไรสุทธิ เท่ากับ 341.32 ล้านบาท ลดล 738.52 ล้านบาท หรือลดลง 0.68% จาก 1,079.83 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 0.01 บาท/หุ้น
โดยวันที่ 23/4/2564 CIMBT มีราคาปิดอยู่ที่ 0.89 บาท ปรับเพิ่มขึ้นมาจากสิ้นปี 48% และมี PE เท่ากับ 24.01 เท่า อัตราปันผลอยู่ที่ 0.56%
อ่านรายละเอียดผลการดำเนินงานเพิ่มเติมได้ที่ >
.
หมายเหตุ
1. โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอนะครับ
.
.
Reference
– https://www.set.or.th /
.
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration