เปิดโผ 21 หุ้นส่งออก รับยอดส่งออกไทย โตแรงสุดในรอบ 3 ปี

เปิดโผ 21 หุ้นส่งออก รับยอดส่งออกไทย โตแรงสุดในรอบ 3 ปี

จากตัวเลขการส่งออกล่าสุดของไทย ในเดือน เม.ย.64 ที่เพิ่มขึ้นถึง 13% เมื่อเทียบกับ เม.ย.ของปีที่แล้ว ถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 3 ปี

.

ถึงแม้การที่ทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้นสูง เนื่องจาก เป็นการเทียบกับเดือน เม.ย. ของปีที่แล้ว ที่ถือว่าทั้งโลกกำลังอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในรอบแรก จึงทำให้ตลาดส่งออกในตลาดโลกหยุดชะงัก

.

แต่ด้วยยอดการส่งออก ที่เราสามารถทำได้เหนือระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จึงเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการส่งออก ที่เกิดจากภาคการผลิตและตลาดการส่งออกโลก

.

ซึ่งเมื่อดูยอดส่งออก 4 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 4.78%
ซึ่งสินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่

1) สินค้าเกษตรและอาหาร
2) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
3) สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด
4) กลุ่มสินค้าเกี่ยวเนื่องกับภาคการผลิตเริ่มกลับมาฟื้นตัว
5) สินค้าคงทนหรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์

.

โพสนี้จึงจะมาเปิดโผ 21 หุ้นส่งออกที่น่าจะได้รับประโยชน์จากตลาดส่งออกที่กำลังฟื้นตัวรอบนี้ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มอุตสาหรรม คือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD), กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) , กลุ่มยานยนต์ (AUTO), กลุ่มปิโตรเครมีภัณฑ์ (PETRO) และกลุ่มเกษตร (AGRI)

.

(ข้อมูลหุ้นแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เรียงลำดับตาม %การเปลี่ยนแปลงของราคามากสุด เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563)
.

🎯 กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD)

.

1. RBF : บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 37,600.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า และ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท เช่น อังเคิลบาร์นส์, เบสท์ โอเดอร์ และ super-find เป็นต้น

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 18.8 บาท เพิ่มขึ้น 9.5 บาท จาก 9.3 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 102.2% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.1% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 84.17 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 0.8%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2MpLJie

.

2. ASIAN : บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 11,560.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : แปรรูปสัตว์น้ำแช่เยือกแข็ง จำหน่ายและส่งออก ทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท และผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 14.2 บาท เพิ่มขึ้น 4.4 บาท จาก 9.8 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 44.9% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -12.9% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 12.45 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.56%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3r87v9x

.

3. CBG : บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 128,000.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งมีการลงทุนหลักในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจ ผลิต ทำการตลาด จำหน่าย และบริหารจัดการการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างครบวงจร

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 128 บาท เพิ่มขึ้น 13.5 บาท จาก 114.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 11.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 13.8% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 37.38 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.88%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2NOmfLP

.

4. OSP : บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 109,637.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้ ตราสินค้า เช่น เอ็ม-150 ลิโพ ครื่องดื่มเกลือแร่ และกาแฟพร้อมดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลภายใต้ตราสินค้าเบบี้มายด์ และทเวลฟ์พลัส รวมทั้งธุรกิจให้บริการผลิตสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายสินค้า

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 36.5 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท จาก 35.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 2.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2.1% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 30.6 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.97%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/36uLSrE

.

5. TKN : บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 10,212.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 7.4 บาท ลดลง -3 บาท จาก 10.4 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -28.8% และเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวลดลง -21.7% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 47.91 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.84%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3fRy0vg

.

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON)

.

6. KCE : บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 81,708.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ PCB ซึ่งเป็นแผ่น Epoxy Glass ที่มีสื่อนำไฟฟ้า เช่น ตะกั่ว ทองแดงเคลือบอยู่ และผลิตแผ่น PCB หลายชั้น ซึ่งเป็นชิ้นส่วนพื้นฐานสำคัญในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคม อุตสาหกรรมยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกือบทุกชนิด

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 27.75 บาท จาก 41.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 66.9% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 18.9% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 67.79 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.14%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/2KsWMXb

.

7. HANA : บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 46,683.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ให้บริการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกส์แบบครบวงจร (Electronic Manufacturing Service-EMS)

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 58 บาท เพิ่มขึ้น 18.25 บาท จาก 39.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 45.9% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 4.5% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 23.28 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.48%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3nXZ2De

.

8. SVI : บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 11,152.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป (Electronics Manufacturing Service?EMS) ให้แก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Original Equipment Manufacturer: OEM) และลูกค้าที่เป็นผู้รับจ้างออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design House)

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 4.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.64 บาท จาก 4.28 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 15% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -2.6% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 17.42 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.24%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/39JHLZE

.

9. DELTA : บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 678,576.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบกำลังไฟฟ้า (Power management solutions) รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท ได้แก่ พัดลมอิเล็กทรอนิกส์ (DC Fan) อีเอ็มไอ ฟิลเตอร์ (EMI) และโซลินอยด์ มีฐานการผลิตอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ เอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 544 บาท เพิ่มขึ้น 58 บาท จาก 486 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 11.9% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 53.7% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 84.8 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 0.6%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/2LK3LeU

.

🎯 กลุ่มยานยนต์ (AUTO)

.

10. AH : บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 7,516.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการหลังการขาย และธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ และ IoT (Internet of Things)

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 23.3 บาท เพิ่มขึ้น 5.5 บาท จาก 17.8 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 30.9% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -2.1% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 34.76 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 0.59%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2SA54zZ

.

11. SAT : บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 9,099.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ เพลาข้าง (Axle Shaft) ให้แก่ผู้ประกอบยานยนต์ (Original Equipment Manufacturer ?OEM?) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และลงทุนในบริษัทอื่นที่ประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 21.4 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท จาก 16.4 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 30.5% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 10.3% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 18.24 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.9%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3bWZA9g

.

12. NYT : บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 5,506.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) และสินค้าทั่วไป

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 4.44 บาท เพิ่มขึ้น 1.16 บาท จาก 3.28 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 35.4% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -3.5% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 23.38 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 4.98%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2ThGmot

.

13. EA : บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 229,395.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ดำเนินธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม 1.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) กลีเซอรีนบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์พลอยได้ และสารเปลี่ยนสถานะ (ผ่านบริษัทฯ และบริษัทย่อย) 2.) กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) 3.) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) (3.1) ธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ (3.2) ธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า), ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (3.3) ธุรกิจวิจัย และพัฒนา

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 61.5 บาท เพิ่มขึ้น 12.25 บาท จาก 49.25 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 24.9% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.8% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 44.42 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 0.51%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/38WKdgb

.

14. STANLY : บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 13,563.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผู้ผลิตอุปกรณ์ส่องสว่างยานยนต์ ได้แก่ หลอดไฟ ชุดโคมไฟ และแม่พิมพ์

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 177 บาท เพิ่มขึ้น 9 บาท จาก 168 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 5.4% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -3.3% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 12.77 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 3.14%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2SA4WAv

.

🎯 กลุ่มปิโตรเครมีภัณฑ์ (PETRO)

.

15. EPG : บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 34,160.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : โดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีการลงทุนหลักในธุรกิจแปรรูปพลาสติก ได้แก่ (1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อนและความเย็น ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด (AFC) ซึ่งเป็นบริษัทแกน ภายใต้เครื่องหมายการค้า “AEROFLEX” (2) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ดำเนินการโดย บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด (ARK) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “AEROKLAS” และ (3) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก ดำเนินการโดย บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด (EPP) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “EPP”

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 12.2 บาท เพิ่มขึ้น 5.1 บาท จาก 7.1 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 71.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.7% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 32.21 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.77%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3q308j5

.

16. IVL : บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 255,462.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีแบบครบวงจร ซึ่งผลิตและจำหน่าย Ethylene Oxide และ Ethylene Glycol (EO&EG) Purified Terephthalic Acid (PTA) Polyethylene Terephthalate (PET) เส้นใยและเส้นด้าย โพลีเอสเตอร์ (Polyester Fiber and Yarn) และเส้นใยจากขนสัตว์ (Wool)

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 45.5 บาท เพิ่มขึ้น 8.5 บาท จาก 37 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 23% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -5.2% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 32.54 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.56%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3wzL3Jt

.

17. VNT : บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 45,037.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟ บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง โดยจัดจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการนำผงพลาสติกพีวีซีไปใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลาย

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 38 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท จาก 32 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 18.8% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -1.9% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 16.19 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.38%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3yKNA4S

.

18. PTTGC : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 282,930.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical Flagship) ของกลุ่ม ปตท.

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 62.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท จาก 58.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 7.3% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -7.4% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 15.07 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.6%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2MGUJja

.

🎯 กลุ่มเกษตร (AGRI)

.

19. STA : บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 69,120.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจร (Full Supply Chain) ในหลากหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำการทำสวนยางพาราในประเทศไทย ธุรกิจกลางน้ำการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง (TSR) ยางแผ่นรมควัน (RSS) และน้ำยางข้น (Concentrated Latex) รวมถึงธุรกิจปลายน้ำในการผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง และสินค้าสำเร็จรูป อาทิ ท่อไฮดรอลิกแรงดันสูง

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 45 บาท เพิ่มขึ้น 18.5 บาท จาก 26.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 69.8% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ปรับตัวลดลง -4.8% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 4.72 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 5.06%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3dL9fQJ

.

20. NER : บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 10,415.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 6.45 บาท เพิ่มขึ้น 2.19 บาท จาก 4.26 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 51.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2.4% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 8.94 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 3.31%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2YWN42I

.

21. GFPT : บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 13,667.00 ล้านบาท]

ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ประกอบธุรกิจการเกษตรครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ปู่ย่าพันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่พ่อแม่พันธุ์ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ธุรกิจชำแหละและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ โดยผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่มบริษัท

โดยราคาหุ้นวันที่ 27-5-2564 ปิดที่ 10.9 บาท ลดลง -3.3 บาท จาก 14.2 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -23.2% และเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (เม.ย.) ยังปรับตัวลดลง -5.2% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 12.56 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.87%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3bThqKL

.


❗หมายเหตุ :

1. หุ้นที่คัดเลือกมาเป็นการศึกษา และการค้นคว้าในเบื้องต้นของแอดเท่านั้น ผู้สนใจควรศึกษาและทำการบ้านเพิ่มเติมนะครับ

2. โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอนะครับ 🙂

.

Reference
– http://tradereport.moc.go.th/TradeThai.aspx
– https://www.set.or.th
– แหล่งข่าวการส่งออกอ้างอิง : www.prachachat.net

.

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *