อัปเดตค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์
แบบ Cash Balance (Online) ปี 2566
“จะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นที่โบรกเกอร์ไหนดี ?”
ยังคงเป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิต ที่เพื่อนๆ นักลงทุนหน้าใหม่ ถามกันมาเรื่อยๆ ถึงแม้ในปัจจุบัน เราไม่จำเป็นต้องเดินไปที่สาขาธนาคาร หรือตามสาขาโบรกเกอร์ต่างๆ เพราะเพียงแค่คลิ๊ก แค่กรอกผ่านทางช่องออนไลน์ เราก็สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นได้แล้ว
.
แต่สิ่งที่นักลงทุน ให้ความสำคัญไม่เปลี่ยน นั่นคือ เรื่องของอัตราค่าธรรมเนียม หรือ ค่าคอมมิชชั่น (%Commission) ที่แต่ละโบรกเกอร์เรียกเก็บ
.
และยิ่งมาตรการ ที่จะมีการเก็บภาษีขายหุ้น 0.1% ที่คาดว่าจะเริ่มใช้ในช่วงเดือนเม.ย. ปี 2566 นี้ (โดยในปีแรกเก็บภาษีก่อนในอัตรา 0.055%) ซึ่งการเก็บภาษีครั้งนี้ จะมีการจัดเก็บเงินตั้งแต่บาทแรกไม่ว่าเราจะขายหุ้นได้กำไรหรือขาดทุนก็ตาม เช่น หากเรา
.
- ขายหุ้น 100 บาท ก็จะเสียภาษี 0.055 บาท (ในปีแรก)
- ขายหุ้น 1,000 บาท ก็จะเสียภาษี 0.55 บาท
- ขายหุ้น 1 ล้านบาท ก็จะเสียภาษี 550 บาท
- ส่วนปีต่อ ๆไปก็จะจัดเก็บที่ ล้านละ 1,000 บาท
.
ภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากการขายหุ้นดังกล่าว ทำให้เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะรายย่อยๆ อย่างเรา เพราะนอกจากที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหุ้นให้กับบรรดาโบรกเกอร์อยู่แล้ว จึงทำให้การหาโบรกเกอร์ที่เก็บค่าธรรมเนียมเริ่มต้นในการซื้อขายหุ้นถูกสุด จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนรายย่อยต้องให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
.
แล้วค่าธรรมเนียมขั้นต่ำสำคัญอย่างไร ?
ซึ่งค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ส่วนใหญ่โบรกเกอร์คิดกันที่ 50 บาทต่อวัน โดยสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ที่ลงทุนไม่มาก ปริมาณการซื้อขายน้อยไม่เกิน 25,000 บาท แนะนำให้หาโบรกเกอร์ที่ไม่มีขั้นต่ำจะดีกว่ามาก เพราะสมมติเราเทรดวันหนึง 10,000 บาท ค่าธรรมเนียมที่โบรกฯ ทั่วไปคิดกันอยู่ที่ 0.157% (ยังไม่รวม VAT)
- กรณีแรก เทรดกับโบรกฯ ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ ก็จะเสียค่าธรรมเนียมตามมูลค่าการซื้อขายที่ 10,000 ละ 15.7 บาท และเมื่อรวม VAT 7% และภาษี จะอยู่ที่ราว ๆ 20 บาท
- กรณีที่สอง เทรดกับโบรกฯ ที่มีขั้นต่ำ 50 บาท จากมูลค่าการเทรดของเราที่ 10,000 บาท แทนที่จะเสียค่าใช้จ่ายสุทธิ 20 บาท เรากลับต้องเสียค่าธรรมเนียมขั้นต่ำแทนที่ 50 บาท
เห็นไหมครับว่า ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ ทำให้เรามีต้นทุนการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาประมาณ 2.5 เท่าเลยทีเดียว อันนี้ยังไม่รวมผลกระทบจากภาระภาษีจากการขายหุ้น ที่จะเพิ่มเข้ามาอีกในอนาคตนะครับ
.
แต่นอกจากเรื่อง ค่าธรรมเนียม ที่ถือเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกแรกๆ แล้ว ที่จริงยังมีสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ ต้องใส่ใจอีก 4 ข้อในการที่จะเลือกโบรกเกอร์ ด้วยคือ
.
- ความน่าเชื่อถือ :
ความน่าเชื่อถือของบริษัทเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่ต่างกับเราเลือกธนาคารที่จะเก็บเงินของเรา ซึ่งโบรกเกอร์ที่ดี ต้องถูกกฎหมาย และมีโครงสร้างของบริษัทที่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่ผู้บริหาร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ อีกทั้งต้องมีระบบบริหารงานที่มีมาตรฐาน และที่สำคัญไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ขัดต่อกฏหมาย
*ทั้ง 32 โบรกเกอร์ที่นำแสดงในครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นสมาชิกกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ (Securities Investor Protection Fund – SIPF)
.
- บริการเสริม :
ปัจจุบันโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ จะมีบริการเสริมเรื่องการฟีดข้อมูลข่าวต่างๆ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุน ทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค นอกจากนั้นแต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีบริการในเรื่องของบทวิเคราะห์หุ้นหรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย แถมบางที่ยังมีจัดสัมมนาทั้งแบบห้องประชุมและแบบออนไลน์ ให้เราได้ศึกษาหาความรู้ในการลงทุนได้
.
- โปรแกรมซื้อขายหุ้น :
ส่วนใหญ่เกือบทุกโบรกเกอร์ในตอนนี้ จะใช้โปรแกรม หรือ แอพพลิเคชั่น Streaming Pro แต่อาจจะมีบางโบรกเกอร์ที่มีโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง หรือไม่ก็มีเครื่องมือเสริมพิเศษ เพื่อที่ใช้ดูหุ้น หรือคัดกรองหุ้นจากอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ
.
- ความสะดวกรวดเร็ว :
อย่างที่บอกว่าตอนนี้เราสามารถเปิดบัญชีแบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก แต่ก็เข้าใจว่านักลงทุนบางคนอาจจะยังรู้สึกไม่มั่นใจที่จะสมัครด้วยตัวเอง ฉะนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่มีสาขาใกล้บ้าน หรืออยู่ในห้างสรรพสินค้า (ส่วนใหญ่จะเป็นโบรคเกอร์ที่อยู่ในเครือของธนาคาร) ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเช่นกัน นอกจากนี้ ความสะดวกยังรวมถึง การบริการตอบข้อซักถามอย่างทันท่วงที กรณีที่เกิดปัญหาระหว่างการใช้งานโปรแกรม หรือการซื้อขายหุ้น ตรงจุดนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
.
ตอนนี้เราก็รู้ถึง 4 สิ่งที่นักลงทุนต้องใส่ใจในการเลือกโบรกเกอร์ นอกเหนือจากการดูค่าคอมมิชชั่น โพสนี้จึงได้ทำการอัปเดตค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ ประจำปี 2566 ที่เป็นบัญชีแบบ Cash Balance* โดยซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น (เป็นค่าธรรมเนียมเริ่มต้น) เพราะน่าจะเป็นทางเลือกที่สะดวกและได้รับความนิยมมากสุด สำหรับมือใหม่ที่อยากจะเข้ามาในโลกของการลงทุน
.
(*บัญชี Cash Balance เป็นประเภทบัญชีที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่สุด ๆ เพราะด้วยข้อจำกัดที่เราต้องฝากเงินสดเข้าไปก่อน ถึงจะสามารถซื้อขายหุ้นได้ คล้ายระบบเติมเงินมือถือแบบ Pre-paid ทำให้นักลงทุนควบคุมงบประมาณการลงทุนได้ง่าย ไม่บุ่มบ่ามตามตลาดจนเกินไป ที่สำคัญยังสมัครง่าย โบรกเกอร์ก็อนุมัติให้แบบไว ๆ โดยไม่ต้องมีวงเงิน )
.
ซึ่งในโพสนี้ได้แบ่งบริษัทหลักทรัพย์ หรือโบรกเกอร์ ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ มี 21 โบรเกอร์
กลุ่มที่ 2 กลุ่มมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ มี 11 โบรเกอร์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ ขั้นต่ำ 50 บาท และ ขั้นต่ำ 30 บาท
.
🎯 กลุ่มที่ 1 กลุ่มไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ
✅ %COM ถูกสุด มี 3 โบรกเกอร์
.
- LIB : บจก. หลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ (ซื้อขายผ่าน แอปพลิเคชัน เท่านั้น)
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.007% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- ZCOM : บจก.หลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.072% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- SBITO : บจก.หลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.082% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
✅ %COM = 0.157%
.
- ASP : บจก.หลักทรัพย์เอเซีย พลัส
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- AWZ : บจก.หลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- BLS : บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- BYD : บมจ.บียอนด์ จำกัด (มหาชน)
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- CGS-CIMB : บจก.หลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- DBSV : บจก. หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- FINANSIA : บมจ.หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- KINGSFORD : บมจ. หลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- KSS : บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- DAOL SEC : บมจ. ดาโอ (ประเทศไทย)
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- KTX : บมก.หลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- PHILLIP : บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- PI : บจก. หลักทรัพย์ พาย
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- INVX : บจก. หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > http://bit.ly/3vrzpzG
.
- TISCO : บจก.หลักทรัพย์ ทิสโก้
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > http://bit.ly/2Q3OJCB
.
- TNS : บมจ.หลักทรัพย์ ธนชาต
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/30MdEwk
.
- UOBKH : บมจ. หลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3hM2bGr
.
- YUANTA : บจก.หลักทรัพย์ หยวนต้า
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และไม่มีขั้นต่ำ
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3lf4ceo
.
🎯 กลุ่มที่ 2 กลุ่มมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ
✅ ขั้นต่ำ 50 บาท
.
- ASL : บมจ.หลักทรัพย์ เอเอสแอล
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.087% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3ewFUKY
.
- AIRA : บมจ.หลักทรัพย์ ไอร่า
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3GUkcOq
.
- CNS : บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- GLOBLEX : บจก.หลักทรัพย์ โกลเบล็ก
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3zeXuL8
.
- IVG : บมจ.หลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/2UXdrHj
.
- KGI : บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3cuRGnl
.
- KS : บมจ.หลักทรัพย์ กสิกรไทย
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
- MST : บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > http://bit.ly/3cv96jE
.
- RHBS : บมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3irznSK
.
- TRINITY : บจก.หลักทรัพย์ ทรีนีตี้
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.157% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ > https://bit.ly/3exfW9X
.
✅ ขั้นต่ำ 30 บาท
.
- LHS : บมจ.หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮาส์
โดยมีค่าธรรมนียม (ค่าคอมมิชชัน) เริ่มต้นที่ 0.164% และมีขั้นต่ำ 50 บาท/วัน
สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ >
.
.
หมายเหตุ ❗❗❗
- %Com ที่แสดงจะรวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่ต้องนำส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- ค่าธรรมเนียมที่ต้องนำส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (0.007%) ประกอบด้วย
(1) ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ฯ (Trading Fee) : บริษัทฯ จะเรียกเก็บเพื่อนำส่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอัตราร้อยละ 0.005 ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
(2) ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (Clearing Fee) : บริษัทฯ จะเรียกเก็บเพื่อนำส่งบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในอัตราร้อยละ 0.001 ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
(3) ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล (Regulatory Fee) : บริษัทฯ จะเรียกเก็บเพื่อนำส่งสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในอัตราร้อยละ 0.001 ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
- การใช้ค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชัน เป็นอีกหนึ่งเกณฑ์ที่ใช้สำหรับเลือกโบรกเกอร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีเกณฑ์อื่น ๆ ให้พิจารณาอย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้น อีกทั้งแต่ละโบรกเกอร์อาจจะมีจุดดีจุดเด่นแตกต่างกัน ฉะนั้น นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูล และสอบถามจากโบรกเกอร์ที่สนใจเพิ่มเติม
- โพสนี้เป็นการรวบรวบและอ้างอิงค่าธรรมเนียมจากเว็บไซต์โบรกเกอร์ในแต่ละโบรก ณ วันที่ 24 ม.ค.2566 ฉะนั้น รายละเอียดหรือค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต หรือถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยครับ
.
#ค่าธรรมเนียม #โบรกเกอร์ #เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ #ค่าคอมมิชชั่น #การลงทุน #iYomBizInspiration
.
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration
youtube : https://www.youtube.com/c/iYomBizInspiration