GameStop หลบไป เพราะเรื่องเกมต้องยกให้พี่ Nintendo
ช่วงปลายๆ เดือนมกราคมที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วโลก สะเทือนไปทั้งตลาดหุ้นและตลาดเกมคงหนีไม่พ้น หุ้นของ GameStop ร้านขายวิดีโอเกมที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ New York (NYSE) สิ่งที่ทำให้ GameStop โด่งดังขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องของการทำธุรกิจแต่อย่างใด แต่อยู่ที่การตอบโต้ของนักลงทุนรายย่อย อย่างที่เราทราบๆ กันอยู่แล้ว
แต่เมื่อหันมามองดูตัวธุรกิจของ GameStop จริง ๆ กลับสวนทางกับราคาหุ้นมาก โดยยอดขายเกมลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2016 มาที่ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2020 หรือลดลงมากกว่า 30% และยังคงขาดทุนเป็นปีที่สามติดต่อกัน
ซึ่งสำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเกม GameStop อาจจะไม่ใช่คำตอบของคำถามนี้ แล้วอะไรที่เหมาะกับการลงทุนมากกว่า เอางี้ครับ สำหรับใครที่เป็นผู้ชายถ้าถามว่า (หรือผู้หญิงอาจตอบได้) ตอนเด็กคุณโตมากับเครื่องเกมหรือเกมอะไรกันบ้างครับ ส่วนตัวผม ถ้าคิดถึงตอนเด็กปุ๋บ เครื่องสีขาวตัดแดง จอยสีแดงๆ ลอยเข้ามาเลยครับ ส่วนเกมโปรดก็จะมีคอนทร้า, มาริโอ้, เมกะแมน, ไมค์ ไทสัน (Punch Out), Adventure Island เป็นต้น
ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึงเจ้าเครื่องแฟมิคอม ของค่าย นินเทนโด (Nintendo) นั่นเอง และไม่น่าเชื่อว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา แม้วงการเกมจะเปลี่ยนไปทั้งมีผู้เล่นเข้ามาใหม่ทั้งจาก Sony (Play Station) และ Microsoft (Xbox) หรือแพลตฟอร์มใหม่ที่เข้ามามากขึ้นจากทั้งบน Smart phone และ Cloud แต่ Nintendo ก็ยังเป็นบริษัทเกมที่อยู่ในใจหลาย ๆ คน
จุดแข็งหลักของ Nintendo
การไม่หยุดนิ่งอยู่กับความสำเร็จในอดีต แม้ Nintendo จะประสบความสำเร็จจากเครื่องแฟมมิคอม และต่อด้วย ซูปเปอร์แฟมมิคอม และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับเกมคอนโซลแบบพกพาเจ้าแรก ๆ อย่าง Gameboy และยังมีเครื่องเกมมากมายออกมาเป็นจำนวนมากตลอดกว่า 30 ปี จนมาถึงตัวล่าสุดอย่าง Switch ที่ขายไปได้แล้วถึง 80 ล้านเครื่องทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 ในขณะที่ Xbox one ขายไป 50 ล้านเครื่อง และ PS4 115 ล้านเครื่อง จากที่เปิดตัวเมื่อปี 2013
โดยข้อดีของเจ้าเครื่อง Nintendo Switch มีด้วยกัน 3 ข้อ
หนึ่ง สามารถใช้เป็นอุปกรณ์พกพาหรือคอนโซลที่เชื่อมต่อกับทีวีได้ ทำให้เหมือนเป็นการรุกตลาดเครื่องเกมคอนโซลในบ้าน ทั้งของ Microsoft และ Sony ไปในตัว
สอง มีเกมมากมายที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมากรอเล่น ทั้ง Mario Kart 8 Deluxe, Animal Crossing: New Horizons, Super Smash Bros. Ultimate, The Legend of Zelda: Breath of the Wild, and Super Mario Odyssey เป็นต้น
สาม ในปี 2019 Switch ได้มีการอัปเกรดชิปเซ็ตใหม่ทั้งหมด สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว Switch Lite ราคาสบายกระเป๋ากว่ารุ่นปกติ สำหรับคอเกมที่มีงบประมาณจำกัด
แล้วการเติบโตของ Nintendo ในแง่ยอดขายละ ?
ปี 2016 ยอดขาย 4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิ 0.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2020 ยอดขายประมาณ 15.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิ 3.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (คาดการณ์) โดยมียอดขายเติบโตถึง 2 เท่า และกำไรสุทธิเติบโตถึง 23 เท่าในระยะเวลาเพียง 5 ปี ซึ่งยอดขายที่แข็งแกร่งของ Switch ช่วยเพิ่มอัตรากำไรจากการดำเนินงานของ Nintendo จาก 6% ในปี 2016 และคาดว่าจะสูงถึง 35% ในปี 2020
ซึ่ง Nintendo ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะในปี 2021 นี้ จะมีการเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Switch Pro และที่สำคัญการผลักดันแพลตฟอร์มเครื่องเกม ที่เน้นการเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ (Seamless) จึงทำให้เจ้าอาณาจักรเกมแห่งนี้ คงยังเติบโตเหมือนได้เก็บเห็ดเพิ่มขนาดไปเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน
โดยราคาหุ้น Nintendo ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 60% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา P/E อยู่ที่ 18 เท่า ในขณะที่ GameStop จากราคาสูงสุดในวันที่ 27 มค. ที่ผ่านมา 348 ดอลลาร์สหรัฐ ตอนนี้ราคาลดลงมาอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ ในเวลาไม่ถึงเดือน
ฉะนั้น ในเรื่องของการลงทุน คงต้องแยกให้ออกระหว่างลงทุนในธุรกิจ หรือลงทุนแบบเก็งกำไร เพราะลงทุนในธุรกิจ สิ่งที่จะพิสูจน์ได้อย่างแท้จริง คือ ระยะเวลา อย่างที่ Nintendo ได้ทำมาตลอด 30 ปี
Reference :
morningstar.com
fool.com
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration