เช็คมูลค่าตลาด 8 หมวดธุรกิจ ที่เพิ่มสูงสุด ณ สิ้น ก.พ.64 (Outperform)
เผลอแป๊บเดียวก็กำลังหมดเดือนที่ 2 ของปี 2564 กันแล้ว โดยถ้าสำรวจตลาดหุ้น ณ สิ้นวันทำการเดือน ก.พ. 2564 (25-2-2564) ที่ผ่านมา SET ปิดที่ 1,496.78 เพิ่มขึ้น 47.43 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.3% จากปิดสิ้นปี 2563 (1,449.35)
โดยมูลมูลค่าตลาด (Market Cap.) ปิดที่ 16.98 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.8% จากปิดสิ้นปี 2563 (16.36 ล้านล้านบาท)
ซึ่งแม้มูลค่าตลาดโดยรวมจะปรับขึ้นเพียงแค่ 3.8% แต่ใครจะรู้ว่ามีบางหมวดธุรกิจที่มีมูลค่าตลาด เพิ่มสูงถึง 50% สูงกว่ามูลค่าตลาดโดยรวมมาก วันนี้จึงมาเช็คมูลค่าตลาดในหมวดธุรกิจ ที่ปรับตัวสูงสุด 8 อันดับแรก และยังเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดโดยรวม (Outperform) ด้วยครับ
(ตารางเรียงลำดับจาก %เพิ่มขึ้นสูงสุด)
ธุรกิจการเกษตร
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 124,426 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 51.3 % หรือเพิ่มขึ้น 42,205 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 82,221 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : STA (+104%), TRUBB (+51%), NER (+33%)
กระดาษและวัสดุการพิมพ์
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 11,440 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 35.4 % หรือเพิ่มขึ้น 2,990 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 8,450 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : UTP (+35%)
การท่องเที่ยวและสันทนาการ
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 100,109 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 18.8 % หรือเพิ่มขึ้น 15,840 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 84,269 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : CENTEL (+40%), SHR (+22%), ERW (+14%)
พลังงานและสาธารณูปโภค
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 3,932,508 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 12.3 % หรือเพิ่มขึ้น 431,285 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 3,501,223 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : BCP (+42%), EA (+27%), PTTEP (+17%)
*หมายเหตุ เนื่องจากในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มีหุ้น OR เข้ามาใหม่ ซึ่งมูลค่าตลาด 342,495 ล้านบาท (ณ 25-2-2564) จึงทำให้มูลค่าตลาดของกลุ่มพลังงานฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ซึ่งถ้าไม่รวมมูลค่าตลาดของหุ้น OR ในการคำนวน จะเพิ่มขึ้นเพียง 88,790 ล้านบาท หรือเพิ่ม 2.5% เท่านั้น
บรรจุภัณฑ์
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 277,890 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.3 % หรือเพิ่มขึ้น 28,200 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 249,690 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : TPBI (+60%), SCGP (+13%), SFLEX (+9%)
อาหารและเครื่องดื่ม
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 1,132,343 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10.8 % หรือเพิ่มขึ้น 110,599 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,021,744 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : RBF (+57%), CBG (+21%), MINT (+18%)
เหล็ก
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 52,233 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10.1 % หรือเพิ่มขึ้น 4,771 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 47,462 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : INOX (+56%), GJS (+25%), MCS (+12%)
ธนาคาร
มูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน ก.พ.64 เท่ากับ 1,625,209 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 9.9 % หรือเพิ่มขึ้น 147,030 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,478,179 ล้านบาท
หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : KBANK (+25%), SCB (+18%), KKP (+15%)
หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ
Reference
– https://www.set.or.th /
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration