---

หุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ (กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์) เป็นอีกกลุ่มที่ในปีที่ผ่านมา มีผลการดำเนินงานเติบโต สวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนหนึ่งเกิดจากตลาดหุ้นในบ้านเรา มีนักลงทุนหน้าใหม่แห่เข้ามาเปิดบัญชีหุ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้มีปริมาณซื้อขายในตลาดเพิ่มสูงขึ้น

.

อีกทั้งมีหลายบริษัท ได้มีการขยับขยายธุรกิจไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้และกำไรในอนาคต ทำให้หุ้นโบรเกอร์ ในปีที่ผ่านมา มีผลตอบแทนราคาเพิ่มขึ้นแบบกระชากใจสุด ๆ (หลังเข้าปีใหม่มาแล้ว หุ้นหลายตัวในกลุ่มก็ยังวิ่งแบบกระชากใจ)

.

ถึงอย่างนั้น หุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ ในปี 2565 นี้ อาจจะต้องเจอกับปัจจัยกดดันครั้งใหม่ ในเรื่องของ การที่กรมสรรพากรจะมีการเก็บภาษีการขายหุ้น ที่จะกระทบกับปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นที่สูงอยู่ในขณะนี้

.

โดยจากการสำรวจหุ้นโบรกเกอร์ ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนทั้งหมด 12 หุ้น ซึ่งราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งหมด และมีถึง 6 ตัวที่มีผลตอบแทนราคาเกิน 100% (สูงสุด 2979%)

.

โพสนี้จึงได้สรุปผลตอบแทนราคา 12 หุ้นโบรเกอร์ ในปี 2564 มาให้ดูกันครับ

.

1. BYD : บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 27,862 ล้านบาท]

(ชื่อเดิม AEC)

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 19.4 บาท เพิ่มขึ้น 18.77 บาท จาก 0.63 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 2979.4%
• PE เท่ากับ 0เท่า, P/B เท่ากับ 19.4 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3GIigqS

.

2. XPG : บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 25,820 ล้านบาท]

(ชื่อเดิม ZMICO)

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 2.9 บาท เพิ่มขึ้น 2.5 บาท จาก 0.40 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 625%
• PE เท่ากับ 972.15เท่า, P/B เท่ากับ 2.46 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3ypjmo9

.

3. GBX : บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,470 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 1.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.84 บาท จาก 0.51 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 164.7%
• PE เท่ากับ 11.32เท่า, P/B เท่ากับ 0.96 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 2.22%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3buUYHU

.

4. FSS : บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,779 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 4.78 บาท เพิ่มขึ้น 2.96 บาท จาก 1.82 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 162.6%
• PE เท่ากับ 10.67เท่า, P/B เท่ากับ 1.06 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 1.28%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3mgPnss

.

5. TNITY : บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,930 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 9 บาท เพิ่มขึ้น 4.86 บาท จาก 4.14 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 117.4%
• PE เท่ากับ 6.2เท่า, P/B เท่ากับ 1.15 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 5.46%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3duOOaq

.

6. AIRA : บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 13,135 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 2.08 บาท เพิ่มขึ้น 1.05 บาท จาก 1.03 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 101.9%
• PE เท่ากับ 216.01เท่า, P/B เท่ากับ 3.65 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.62%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3qDAFj4

.

7. CGH : บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 5,247 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 1.31 บาท เพิ่มขึ้น 0.62 บาท จาก 0.69 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 89.9%
• PE เท่ากับ 8.02เท่า, P/B เท่ากับ 0.9 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3wns6d7

.

8. KGI : บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 12,548 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 6.3 บาท เพิ่มขึ้น 2.5 บาท จาก 3.80 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 65.8%
• PE เท่ากับ 6.45เท่า, P/B เท่ากับ 1.74 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 4.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3nfzaTc

.

9. ASP : บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 7,286 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 3.46 บาท เพิ่มขึ้น 1.28 บาท จาก 2.18 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 58.7%
• PE เท่ากับ 8.03เท่า, P/B เท่ากับ 1.5 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 5.14%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3thserM

.

10. UOBKH : บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,638 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 5.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.49 บาท จาก 3.76 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 39.6%
• PE เท่ากับ 7.35เท่า, P/B เท่ากับ 0.67 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 1.90%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3l1MY48

.

11. MST : บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 6,907 ล้านบาท]

(ชื่อเดิม MBKET)

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 12.1 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท จาก 8.85 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 36.7%
• PE เท่ากับ 8.57เท่า, P/B เท่ากับ 1.48 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 4.96%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3GD10TQ

.

12. FNS : บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,383 ล้านบาท]

• โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 4 บาท เพิ่มขึ้น 0.2 บาท จาก 3.80 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 5.3%
• PE เท่ากับ 0เท่า, P/B เท่ากับ 0.52 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 16.25%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/2Y3x9iY

.
.

❗ หมายเหตุ :

1. โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂

.

Reference
– https://www.set.or.th /

.

ตลาดหุ้นไทย #หุ้นโบรเกอร์ #หุ้นหลักทรัพย์ #ผลตอบแทน #การลงทุน #iYomBizInspiration

.

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่

website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration
youtube : https://www.youtube.com/c/iYomBizInspiration