บิล เกตส์ แนะ 3 นวัตกรรม ที่จะช่วยนำหน้าการระบาดครั้งต่อไป
“การเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดที่เกิดขึ้น คงต้องคิดให้เหมือนว่า เรากำลังอยู่ในภาวะสงคราม ที่พร้อมจะถูกศัตรูคุกคามอยู่เสมอ”
บิล เกตส์ หนึ่งในมหาเศรษฐีที่ช่วยเหลือสังคม โดยล่าสุดมูลนิธิของเขา ได้บริจาคเงินสูงถึง 1.75 พันล้านดอลลาร์ในการสู้ศึกกับโควิดในครั้งนี้ และเขายังบอกด้วยว่า โลกยังต้องใช้เงินอีกหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ในการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอีกอนาคต เพราะ บิล เกตส์ เชื่อว่านี่จะเป็นเหมือนกรมธรรม์ประกันภัยที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุดเท่าที่โลกจะซื้อได้
ซึ่ง บิล เกตส์ ยังแนะนำ 3 นวัตกรรม
ในการเตรียมรับมือการโรคระบาดครั้งต่อไป ไว้คือ
1. แพลตฟอร์มสำหรับการวินิจฉัย (ขนาดใหญ่และรวดเร็ว)
โดยบิล เกตส์ ได้กล่าวถึงช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกา จะเห็นได้ว่า ความสามารถในการตรวจวินิจฉัย ค่อนข้างช้าและดูเหมือนจะล้าหลังหลายประเทศ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมในสิ่งที่เรียกว่า แพลตฟอร์มสำหรับการวินิจฉัยขนาดใหญ่ (Mega-Diagnostic Platform) ที่สามารถทดสอบได้มากถึง 20% ของประชากรทั่วโลกในทุกสัปดาห์
นอกจากนี้ บิล เกตส์ ยังชี้ให้เห็นถึงการรักษาที่ใช้ โมโนโคลนอล แอนติบอดี (Monoclonal Antibodies) ซึ่งผลแสดงให้เห็นว่า มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยโมโนโคลนอล แอนติบอดี มีความสามารถในการเลียนแบบระบบภูมิคุ้มกัน ที่จะต่อสู้กับแอนติเจนที่เป็นอันตราย เช่น ไวรัส ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration) ได้กล่าวไว้
ในส่วนความสำเร็จของวัคซีน Messenger RNA (ที่ Pfizer และ Morderna ใช้) เป็นสิ่งที่ทำให้โลกมีความหวัง และคาดหมายว่าจะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น จากทั้งมีการพัฒนาที่ดีขึ้น, ผลิตได้จำนวนมากขึ้น, และยังสามารถที่จะจัดเก็บได้นานถึง 5-10 ปี และนั่นจะเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ ที่เราสามารถรับมือกับโรคระบาดได้ในอนาคต
2. นักผจญเพลิงโรคระบาด
นึกภาพเวลาเกิดเหตุไฟไหม้ที่ไหน กลุ่มนักผจญเพลิงที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ จะรู้และเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว เพื่อดับไฟ การจัดการกับการแพร่ระบาดก็เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจจับและจัดการกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดขึ้น ที่จะถูกเรียกว่า นักผจญเพลิงโรคระบาด ที่พร้อมจะตอบสนองต่อวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ทันที
นอกจาก บิลเกตส์ ยังแนะว่า ควรมี “ระบบแจ้งเตือนทั่วโลก (Global Alert System) ขนาดใหญ่ที่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วทุกมุมโลก สามารถเข้าถึงและใช้เพื่อบันทึกข้อมูลผู้ป่วย ระบุแนวโน้มต่าง ๆ ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์เพื่อสร้างรูปแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น
3. เกมเชื้อโรคและการจำลองสถานการณ์
ก็คล้ายกับการเล่นเกมส์สงคราม ที่มีไว้เพื่อให้ทหารได้เตรียมความพร้อมสำหรับออกสนามรบจริง การใช้เกมเชื้อโรค (Germ Games) ก็เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการจำลองสถานการณ์ที่ซับซ้อน ซึ่งให้ผู้เชี่ยวชาญ ฝึกฝนวิเคราะห์และปรับปรุงวิธี ที่จะตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรค
ซึ่ง บิล เกตส์ ได้ยกตัวอย่างของเคสการระบาดที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอ ในการจัดการกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้การรับมือของประเทศล่าช้า และทำให้เกิดการกระจายตัวมาก โดยการจำลองสถานการณ์ด้วยเกม จะสามารถช่วยฝึกอบรมและเตรียมความพร้อมของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อได้เป็นอย่างดี
“ ความเร็วมีความสำคัญในการแพร่ระบาด” เกตส์กล่าว “ ยิ่งคุณดำเนินการเร็วเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งตัดการเติบโตแบบทวีคูณของไวรัสได้เร็วขึ้นเท่านั้น”
สรุป คือ ทั้ง 3 นวัตกรรมที่บิลเกตส์แนะนำมา คือ การใช้แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่จะช่วยในการพัฒนาการรักษา ปรับปรุงประสิทธิภาพวัคซีน การฝึกฝนบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ และยังใช้แพลตฟอร์มในการสร้างสถานการณ์ ที่อาจเป็นไปได้ทั้งหมด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดในทุกรูปแบบนั่นเอง
Reference : http://cnb.cx/36jbSGd
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ
พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน
ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration