ส่องผลการดำเนินงาน Q1 2564 12 หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล

ส่องผลการดำเนินงาน Q1 2564 12 หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล

หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะการระบาดของโควิด-19 โดยเมื่อส่องดูผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 12 อันดับแรก รายได้รวมอยู่ที่ เท่ากับ 34,050 ลบ. ลดลง 6,490 ลบ. หรือลดลง 16% ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 5 โรงพยาบาลเท่านั้น

.

ในขณะที่กำไรสุทธิรวมของทั้ง 12 โรงพยาบาลอยู่ที่ 2,769 ลบ. ลดลง 2,955 ลบ. หรือลดลง 52% ซึ่งมีโรงพยาบาลที่กำไรเพิ่มขึ้นเพียง 5 โรงพยาบาล และยังมี 2 โรงพยาบาลที่มีผลขาดทุนสุทธิ

.

🎯 ข้อสังเกตุ

  1. โดยส่วนใหญ่โรงพยาบาลที่มี่รายได้ลดลงจะมาจากการการพึ่งพิงลูกค้าชาวต่างชาติเป็นสัดส่วนที่สูง
  2. ในขณะที่โรงพยาบาลที่เน้นลูกค้าคนไทยและรับประกันสังคมจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น (จากค่าเหมาจ่ายต่อหัวของประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น)

.

ลองไปดู 12 หุ้นในกลุ่มนี้กันว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2564 และราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากน้อยเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563

.

(ข้อมูลเรียงลำดับจากโรงพยาบาลที่มีมูลค่าตลาดวันที่ 14/5/2564 สูงสุด)

.

  1. BDMS : บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) [มูลค่าตลาด 33,5321 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 16,280.89 ล้านบาท ลดลง 19% หรือลดลง 3722.48 ล้านบาท จาก 20,003.37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ลดลงจากผู้ป่วยต่างชาติลดลง
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 1,338.66 ล้านบาท ลดลง 48% หรือลดลง 1,229.38 ล้านบาท จาก 2,568.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิลดลงจากรายได้ที่ลดลง อีกทั้งไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน BH
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 21.7 บาท เพิ่มขึ้น 0.9 บาท จาก 20.8 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 4.3% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 47.8 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.5%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3qMug20

.

  1. BH : บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 10,0912 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 2,678.71 ล้านบาท ลดลง 35% หรือลดลง 1,458.78 ล้านบาท จาก 4137.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ลดลงจากผู้ป่วยต่างชาติลดลง
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 91.13 ล้านบาท ลดลง 88% หรือลดลง 674.07 ล้านบาท จาก 765.2 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.11 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิลดลงจากรายได้ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายลดลงในอัตราที่น้อยกว่ารายได้ที่ลดลง
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 134 บาท เพิ่มขึ้น 14 บาท จาก 120 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 11.7% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 88.56 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.31%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3qPX2Pt

.

  1. BCH : บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 45,885 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 2,383.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% หรือเพิ่มขึ้น 186.79 ล้านบาท จาก 2,196.58 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 เป็น จำนวนมากโดยเฉพาะบริการตรวจคัดกรองโรค และการใหบริการกักกันทางเลือก (ASQ)
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 333.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% หรือเพิ่มขึ้น 55.21 ล้านบาท จาก 277.95 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.13 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มจากรายได้ที่เพิ่ม และการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 18.1 บาท เพิ่มขึ้น 4.5 บาท จาก 13.6 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 33.1% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 36.72 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.24%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3ccnUVW

.

  1. SVH : บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 41,000 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 2,494.93 ล้านบาท ลดลง 17% หรือลดลง 497.54 ล้านบาท จาก 2,992.47 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ลดลงจากผู้ป่วยต่างชาติลดลง
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 318.7 ล้านบาท ลดลง 34% หรือลดลง 161.68 ล้านบาท จาก 480.37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 3.19 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิลดลงจากรายได้ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายลดลงในอัตราที่น้อยกว่ารายได้ที่ลดลง
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 418 บาท เพิ่มขึ้น 18 บาท จาก 400 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 4.5% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 28.88 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 3.1%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3iMiodD

.

  1. CHG : บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 36,300 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 1,472.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% หรือเพิ่มขึ้น 150.41 ล้านบาท จาก 1,321.63 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 เป็น จำนวนมากโดยเฉพาะบริการตรวจคัดกรองโรค และการใหบริการกักกันทางเลือก (ASQ)
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 249.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% หรือเพิ่มขึ้น 71.48 ล้านบาท จาก 177.99 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มจากรายได้ที่เพิ่ม และการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 3.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.66 บาท จาก 2.46 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 26.8% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 39.15 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.58%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/36a4zRq

.

  1. RAM : บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 34,200 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 2,290.45 ล้านบาท ลดลง 25% หรือลดลง 755.58 ล้านบาท จาก 3,046.03 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ลดลงเนื่องจากปีที่แล้ว มีรายการรับรู้รายได้กำไรจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 850 ล้านบาท ในส่วนรายได้จากค่ารักษาพยาบาทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1%
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 338.74 ล้านบาท ลดลง 69% หรือลดลง 760.4 ล้านบาท จาก 1099.14 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 1.41 บาทต่อหุ้น กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากรายได้ที่ลดลง
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 144 บาท เพิ่มขึ้น 4.5 บาท จาก 139.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 3.2% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 54.68 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.52%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2LXGPZU

.

  1. VIBHA : บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 29,052 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 1,679.43 ล้านบาท ลดลง 2% หรือลดลง 26.51 ล้านบาท จาก 1,705.94 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ลดลงจากจำนวนผู้ป่วยที่ลดลง
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 191.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% หรือเพิ่มขึ้น 56.45 ล้านบาท จาก 135.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.01 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเนื่องจาก กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนและกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน 90.6 ล้านบาท
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 2.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.77 บาท จาก 1.47 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 52.4% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 67.61 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.79%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2YgFjnW

.

  1. THG : บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 21,227 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 1566.22 ล้านบาท ลดลง 19% หรือลดลง 373.95 ล้านบาท จาก 1940.17 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ลดลงจากผู้ป่วยต่างชาติลดลง และจากการสิ้นสุดสัญญารับจ้างบริหารโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง
  • ขาดทุนสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 214.95 ล้านบาท ลดลง 360% หรือลดลง 297.49 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 82.54 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีขาดทุนสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.25 บาทต่อหุ้น ซึ่งขาดทุนสุทธิ เนื่องจากรายได้ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีผลขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 25.5 บาท ลดลง 0.25 บาท จาก 25.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง 1% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 344.67 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.19%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3sXUSPt

.

  1. SKR : บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 16,594 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 997.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% หรือเพิ่มขึ้น 22.92 ล้านบาท จาก 974.95 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากคนไข้ประกันสังคมและกลุ่มคนไข้รักษาโรคเฉพาะทางที่ซับซ้อนด้วยการผ่าตัด
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 94.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% หรือเพิ่มขึ้น 21.93 ล้านบาท จาก 72.61 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.05 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มจากรายได้ที่เพิ่ม และการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 8.2 บาท เพิ่มขึ้น 1.7 บาท จาก 6.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 26.2% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 46.89 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 0.98%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3fAsEV4

.

  1. PRINC : บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 14,680 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 722.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% หรือเพิ่มขึ้น 12.39 ล้านบาท จาก 710.56 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากภาวะการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคโควิด-19 เป็น จำนวนมากโดยเฉพาะบริการตรวจคัดกรองโรค และการใหบริการกักกันทางเลือก (ASQ)
  • ขาดทุนสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 161.57 ล้านบาท ลดลง 37% หรือลดลง 43.88 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 117.69 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีขาดทุนสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.05 บาทต่อหุ้น ซึ่งขาดทุนสุทธิขจากค่าใช้จ่ายที่ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากมีโรงพยาบาลเปิดใหม่และยังมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 4.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.78 บาท จาก 4 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 19.5% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ NA เนื่องจาก ผลการดำเนินงานล่าสุด ขาดทุน

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3iThJXZ

.

  1. CMR : บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 9,736 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 973.21 ล้านบาท ลดลง 8% หรือลดลง 84.95 ล้านบาท จาก 1,058.15 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซี่งรายได้ลดลงจากจำนวนคนไข้ลดลง
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 82.38 ล้านบาท ลดลง 17% หรือลดลง 16.55 ล้านบาท จาก 98.94 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิลดลงจากรายได้ที่ลดลง
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 2.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.92 บาท จาก 1.76 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 52.3% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 54.42 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.94%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/36eYXVR

.

  1. RJH : บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 8,850 ล้านบาท]
  • รายได้ Q1/2564 เท่ากับ 510.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% หรือเพิ่มขึ้น 56.92 ล้านบาท จาก 453.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มคนไข้ประกันสังคม
  • กำไรสุทธิ Q1/2564 เท่ากับ 106.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% หรือเพิ่มขึ้น 23.86 ล้านบาท จาก 82.77 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q1 ของปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.36 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายการพิเศษปรับปรุงรายได้ประกันสังคมปีก่อนเข้ามา (หากไม่มีรายการนี้กำไรจะเพิ่มขึ้นเพียง 4% เท่านั้น)
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 14-5-2564 ปิดที่ 31.5 บาท เพิ่มขึ้น 7.8 บาท จาก 23.7 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 32.9% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 22.91 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 3.33%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3oedqHH

.

❗ หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนหรือผลการดำเนินงานจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอนะครับ 🙂

.

Reference
– https://www.set.or.th
..

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *