ส่องผลการดำเนินงาน Q2 2564 10 หุ้นกลุ่มธนาคาร (BANK)

ส่องผลการดำเนินงาน Q2 2564 10 หุ้นกลุ่มธนาคาร (BANK)

และแล้วก็ผ่านล่วงมาครึ่งปี 2564 กันไปแล้ว ถือว่าเป็นครึ่งปีที่แสนสาหัสจริง ๆ สำหรับทุกคน ที่ล้วนแล้วได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

.

ซึ่งแม้ตัวเลจทางเศรษฐกิจจะยังไม่ออก แต่หนึ่งตัวชี้วัดในแง่ภาพรวมของเศรษญกิจเราได้เป็นอย่างดี นั่นคือ ในเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกลุ่มที่มักประกาศอออกมาก่อนเป็นประจำนั่นคือ กลุ่มธนาคาร (BANK) ที่ถือเป็นแกนหลักสำคัญของระบบเศรษฐกิจในบ้านเรา

.

โดยในไตรมาส 2 ปี 2564 ทั้ง 10 ธนาคารมีรายได้รวมทั้งหมด 2.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4 พันล้านบาท หรือเพิ่ม 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งธนาคารที่มีรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คือ

  1. KBANK มีรายได้รวมเท่ากับ 40,855 ล้านบาท
  2. BAY มีรายได้รวมเท่ากับ 38,699 ล้านบาท
  3. SCB มีรายได้รวมเท่ากับ 36,469 ล้านบาท

.

ในขณะที่สิ่งที่น่าสังเกต คือ กำไรสุทธิของทั้ง 10 ธนาคารที่เพิ่มสูงขึ้น มาอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 2 หมื่นล้านลาท หรือเพิ่มสูงถึง 69% สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งธนาคารที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับแรก ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คือ

  1. BAY มีกำไรสุทธิเท่ากับ 14,543 ล้านบาท
  2. KBANK มีกำไรสุทธิเท่ากับ 8,894 ล้านบาท
  3. SCB มีกำไรสุทธิเท่ากับ 8,815 ล้านบาท

.

โพสนี้จึงจะมาเจาะผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มแบงก์ทั้ง 10 ในสองเรื่องคือ

1.ส่องผลการดำเนินงาน Q2 2564

  1. ส่องผลกำไรต่อหุ้น (EPS) 6 เดือนแรก ปี 2564 เทียบกับราคาตลาดในปัจจุบัน

.

(ข้อมูลเรียงลำดับตามแบงก์ที่มีรายได้สูงสุดในไตรมาสที่ 2 นี้)

.


.

ส่องผลการดำเนินงาน Q2 2564

.

  1. KBANK : ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 271,288 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 40,854.88 ล้านบาท ลดลง -1% หรือลดลง -318.87 ล้านบาท จาก 41,173.76 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 8,894.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 309% หรือเพิ่มขึ้น 6,718.73 ล้านบาท จาก 2,175.35 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss: ECL) ลดลงถึง 46% โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 3.75 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3rL8Cf0

.

  1. BAY : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 228,029 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 38,698.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% หรือเพิ่มขึ้น 11,011.50 ล้านบาท จาก 27,687.37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 14,542.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123% หรือเพิ่มขึ้น 8,035.07 ล้านบาท จาก 6,507.73 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากการบันทึกกำไรจากเงินลงทุนจากการขายหุ้นในบริษัท เงินติดล้อ จ ากัด (มหาชน) โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 1.98 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3ra0KTG

.

  1. SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 320,886 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 36,468.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% หรือเพิ่มขึ้น 192.17 ล้านบาท จาก 36,276.79 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 8,814.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% หรือเพิ่มขึ้น 454.77 ล้านบาท จาก 8,359.77 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดลง โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 2.59 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2N5RIsN

.

  1. BBL : ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 202,337 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 33,823.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% หรือเพิ่มขึ้น 1,538.14 ล้านบาท จาก 32,284.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 6,356.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% หรือเพิ่มขึ้น 3,261.78 ล้านบาท จาก 3,094.98 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรวมรายได้ของธนาคารเพอร์มาตา และรายได้ที่เพิ่มจากค่าธรรมเนียมการอำนวยสินเชื่อและค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ อีกทั้งยังมีขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 3.33 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3cPEmv8

.

  1. KTB : ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 143,953 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 28,850.82 ล้านบาท ลดลง -11% หรือลดลง -3,590.20 ล้านบาท จาก 32,441.02 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 6,011.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% หรือเพิ่มขึ้น 2,255.54 ล้านบาท จาก 3,755.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลงถึง 45%โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.43 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2Rbk32Q

.

  1. TTB : ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 98,338 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 15,899.89 ล้านบาท ลดลง -4% หรือลดลง -668.62 ล้านบาท จาก 16,568.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 2,534.11 ล้านบาท ลดลง -18% หรือลดลง -560.83 ล้านบาท จาก 3,094.94 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้จากดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง อีกทั้งมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้น 10% โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.03 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3w89dJv

.

  1. KKP : ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 46,148 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 5,735.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% หรือเพิ่มขึ้น 883.34 ล้านบาท จาก 4,852.15 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 1,354.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% หรือเพิ่มขึ้น 170.07 ล้านบาท จาก 1,184.19 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ทั้งในส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้นถึง 85% โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 1.6 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2Q3121K

.

  1. TISCO : บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 72,859 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 4,714.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% หรือเพิ่มขึ้น 352.28 ล้านบาท จาก 4,362.36 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 1,666.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% หรือเพิ่มขึ้น 336.97 ล้านบาท จาก 1,329.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีรายได้จากกำไรที่เกิดขึ้นจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มถึง 193 ล้านบาท และยังมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง 36% โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 2.08 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/31Rc4db

.

  1. CIMBT : ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 27,858 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 3,773.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% หรือเพิ่มขึ้น 87.18 ล้านบาท จาก 3,686.44 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 613.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% หรือเพิ่มขึ้น 307.41 ล้านบาท จาก 306.04 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น และมีรายได้จากกำไรที่เกิดขึ้นจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มถึง 312 ล้านบาท อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง และยังมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2R1EWNK

.

  1. LHFG : บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 23,302 ล้านบาท]
  • รายได้ Q2/2564 เท่ากับ 1,833.39 ล้านบาท ลดลง -3% หรือลดลง -63.54 ล้านบาท จาก 1,896.93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว
  • กำไรสุทธิ Q2/2564 เท่ากับ 477.53 ล้านบาท ลดลง -5% หรือลดลง -23.36 ล้านบาท จาก 500.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Q2 ของปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ที่ลดลง และยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น แม้จะมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลงก็ตาม โดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/31Nu0p0

.

.

ส่องผลกำไรต่อหุ้น (EPS) 6 เดือนแรก ปี 2564

.

  1. KBANK : ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 249,964 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 8.10 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 4.08 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 101.5% จาก 4.02 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 105.5 บาท ลดลง -7.5 บาท จาก 113 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -6.6% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 7.45 เท่า, P/B เท่ากับ 0.55 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.34%

.

  1. BAY : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 220,673 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 5.56 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.38 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 7.3% จาก 5.18 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 30 บาท ลดลง -1.25 บาท จาก 31.25 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -4% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 9.8 เท่า, P/B เท่ากับ 0.75 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 1.17%

.

  1. SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 322,585 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 6.96 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1.32 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 23.4% จาก 5.64 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 95 บาท เพิ่มขึ้น 7.5 บาท จาก 87.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 8.6% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 11.51 เท่า, P/B เท่ากับ 0.77 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.41%

.

  1. BBL : ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 198,520 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 2.86 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1.02 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 55.4% จาก 1.84 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 104 บาท ลดลง -14.5 บาท จาก 118.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -12.2% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 12.08 เท่า, P/B เท่ากับ 0.43 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.39%

.

  1. KTB : ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 146,749 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 0.83 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 13.7% จาก 0.73 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 10.5 บาท ลดลง -0.6 บาท จาก 11.1 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -5.4% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 9.26 เท่า, P/B เท่ากับ 0.43 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 2.59%

.

  1. TTB : ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 96,409 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 0.06 บาทต่อหุ้น ลดลง -0.02 บาท หรือ ลดลง -26.8% จาก 0.0753 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 1 บาท ลดลง -0.08 บาท จาก 1.08 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -7.4% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 11.04 เท่า, P/B เท่ากับ 0.47 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 4.5%

.

  1. KKP : ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 44,243 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 4.28 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.76 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 21.6% จาก 3.52 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 52.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.5 บาท จาก 51.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 1% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 8.67 เท่า, P/B เท่ากับ 0.92 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 4.43%

.

  1. TISCO : บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 70,457 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 3.33 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.7% จาก 3.15 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 88 บาท ลดลง -0.5 บาท จาก 88.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -0.6% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 11.11 เท่า, P/B เท่ากับ 1.71 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 7.14%

.

  1. CIMBT : ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 27,161 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 0.05 บาทต่อหุ้น ลดลง -0.01 บาท หรือ ลดลง -20.6% จาก 0.063 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 0.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท จาก 0.6 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 30% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 49.2 เท่า, P/B เท่ากับ 0.66 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 0.65%

.

  1. LHFG : บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 23,090 ล้านบาท]
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2564 เท่ากับ 0.03 บาทต่อหุ้น ลดลง -0.01 บาท หรือ ลดลง -25% จาก 0.04 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 23-7-2564 ปิดที่ 1.09 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท จาก 1.05 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 3.8% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 12.82 เท่า, P/B เท่ากับ 0.59 เท่า และมีอัตราปันผลที่ 3.63%

.

.

❗หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ

.

#หุ้นกลุ่มธนาคาร
#การลงทุน
#iYomBizInspiration

.

Reference
– https://www.set.or.th /

.

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *