ส่องหุ้นไทยเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง ? และการเปลี่ยนแปลงราคา ณ ไตรมาส 1 /2565 (เทียบกับสิ้นปี 2564)

สำหรับงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่เพิ่งจบไปนั้น ต้องบอกเลยว่าปีนี้ รถยนต์ที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เพราะจากทั้งเป็นเทรนด์แห่งรถยนต์ในอนาคตแล้ว และยังได้มาตรการที่ภาครัฐมาสนับสนุน ทำให้ราคาขายของรถยนต์ไฟฟ้ามีความชัดเจน และมีบางแบรนด์ในงานที่ราคาถูกลงไปตั้งแต่ 1.6-2.4 แสนบาท

.

จึงทำให้ จากยอดจองรถยนต์รวมในงานนี้ทั้งหมด กว่า 3.4 หมื่นคัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเกือบ 10% หรือประมาณกว่า 3,000 คัน เป็นตัวเลขที่เกินกว่าหลายค่ายรถยนต์ได้ประเมินไว้

.

จองแล้วไม่ใช่ได้เลยด้วยนะครับ ผมถามเพื่อนที่ไปจองมา ต้องรอถึงเกือบปลาย ๆ ปี กันเลยทีเดียวถึงจะได้รถยนต์ จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ากระแสการตอบรับของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้า อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม

.

ทำให้ต่อจากนี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า คงต้องมีการแข่งขันคึกคักมากขึ้น เพราะอย่างที่เราเห็นกันอยู่ตอนนี้ ที่แบรนด์จากค่ายรถจีนได้รุกคืบนำโด่งเข้ามาในตลาดบ้านเรา ซึ่งเป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่า หากแบรนด์จากค่ายรถญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในระดับราคาที่ใกล้เคียงกับแบรนด์จีน ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้นมาถึงระดับใด (เห็นว่าปีนี้โตโยต้า ประกาศแล้วว่าจะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกอย่างแน่นอน)

.

จึงทำให้ห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ในบ้านเรา ที่ส่วนใหญ่เป็นของแบรนด์ญี่ปุ่น อาจจะได้รับอานิสงค์ไม่มากก็น้อย อีกทั้ง อาจจะมีหุ้นใหม่ ๆ ที่จะอยู่ในห่วงโซ่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาด้วย โพสนี้จึงได้รวบรวมหุ้นที่เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดหุ้นไทยเราว่ามีอะไรบ้าง พร้อมทั้งอัปเดตราคาหุ้นวันที่ 5/4/2565 เทียบกับต้นปีที่ผ่านมาว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร

.

โดยจากการสำรวจหุ้นทั้งหมด มีจำนวน 35 หุ้นที่น่าจะเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ

.

1. กลุ่มชิ้นส่วนประกอบ EV100% มี 12 หุ้น
2. กลุ่มสถานีชาร์จ มี 6 หุ้น
3. กลุ่มแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มี 3 หุ้น
4. กลุ่มแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน มี 5 หุ้น
5. กลุ่มชิ้นส่วนประกอบแบบ Hybrid/plug-in มี 2 หุ้น
6.กลุ่มอุปกรณ์สายไฟฟ้า มี 1หุ้น
7. กลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสาร EV Car มี 5 หุ้น
8. กลุ่มบริการเดินรถ มี 1 หุ้น.

ไปดูกันครับว่า หุ้นในกระแสรถยนต์ไฟฟ้ามีอะไรบ้าง

.
(ข้อมูลหุ้นตามแต่ละกลุ่มเรียงลำดับจาก หุ้นที่มีผลตอบแทนราคามากสุดไปน้อยสุด เมื่อเทียบกับต้นปี 2565)

.

.

🎯 กลุ่มที่ 1 : ชิ้นส่วนประกอบ EV100%

.

แม้จะผู้ผลิตชิ้นส่วนบางรายที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนสายการผลิตจากเครื่องยนต์สันดาป แต่ก็มีหลายบริษัทที่น่าจะได้รับผลบวก จากการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ชิ้นส่วนพลาสติก โคมไฟ ยาง เบาะ ระบบปรับอากาศ เป็นต้น

สำหรับหุ้นผลิตชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ EV 100% ประกอบด้วย 12 หุ้น ดังนี้คือ

.

1. BM : บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,350 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นเดือน มี.ค.65 (31/3/2565) ปิดที่ 4.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.52 บาท จาก 4.46 บาท เมื่อสิ้นปี 2564 หรือ เพิ่มขึ้น 11.7%

– PE เท่ากับ 31.75เท่า, P/B เท่ากับ 3 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.82%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > 

.

2. PCSGH : บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 7,854 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท จาก 5.10 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 1%

– PE เท่ากับ 15.58เท่า, P/B เท่ากับ 1.7 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 5.88%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > 

.

3. PACO : บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,940 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 2.94 บาท ลดลง -0.02 บาท จาก 2.96 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -0.7%

– PE เท่ากับ 27.3เท่า, P/B เท่ากับ 3.27 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 2.70%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

4. TRU : บริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,858 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 4.8 บาท ลดลง -0.06 บาท จาก 4.86 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -1.2%

– PE เท่ากับ 36.45เท่า, P/B เท่ากับ 0.87 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 2.11%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

5. FPI : บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 5,144 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 3.4 บาท ลดลง -0.08 บาท จาก 3.48 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -2.3%

– PE เท่ากับ 15.22เท่า, P/B เท่ากับ 2.76 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 3.49%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

6. HFT : บริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 5,432 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 8.25 บาท ลดลง -0.35 บาท จาก 8.60 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -4.1%

– PE เท่ากับ 11.79เท่า, P/B เท่ากับ 1.54 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 5.12%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

7. TKT : บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 404 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 1.7 บาท ลดลง -0.08 บาท จาก 1.78 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -4.5%

– PE เท่ากับ 29.74เท่า, P/B เท่ากับ 0.92 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

8. PIMO : บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,119 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 3.34 บาท ลดลง -0.22 บาท จาก 3.56 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -6.2%

– PE เท่ากับ 20.76เท่า, P/B เท่ากับ 3.04 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 1.84%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

9. AH : บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 8,800 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 24.8 บาท ลดลง -2.2 บาท จาก 27.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -8.1%

– PE เท่ากับ 8.59เท่า, P/B เท่ากับ 1.03 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 3.79%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > 

.

10. EPG : บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 26,600 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 9.5 บาท ลดลง -1.7 บาท จาก 11.20 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -15.2%

– PE เท่ากับ 15.98เท่า, P/B เท่ากับ 2.32 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 2.96%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > 

.

11. INGRS : บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,042 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 0.72 บาท ลดลง -0.15 บาท จาก 0.87 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -17.2%

– PE เท่ากับ 0เท่า, P/B เท่ากับ 0.8 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > 

.

12. HTECH : บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,446 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 4.82 บาท ลดลง -1.33 บาท จาก 6.15 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -21.6%

– PE เท่ากับ 10.69เท่า, P/B เท่ากับ 1.2 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 3.82%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

.

🎯 กลุ่มที่ 2 : สถานีชาร์จ

.

ตอนนี้หลายคนน่าจะเริ่มคุ้นตากับ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charger ตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในปั๊มน้ำมัน ที่จอดรถในสำนักงาน / บ้าน / คอนโด / ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าสะดวกซื้อ เป็นต้น และก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่กำลังขยายกาลงทุนทำสถานีชาร์จไฟเพิ่มเติม เพราะถือได้ว่าเป็นเป็นบริการที่แม้จะอยู่ปลายน้ำ แต่ก็มีความสามารถในการเติบโตจากอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน

สำหรับหุ้นในกลุ่มสถานีชาร์จ ประกอบด้วย 6 หุ้น

.

13. FORTH : บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 30,240 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 31.5 บาท เพิ่มขึ้น 10.3 บาท จาก 21.20 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 48.6%

– PE เท่ากับ 40.77เท่า, P/B เท่ากับ 17.31 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 1.49%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

14. BCP : บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 40,963 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.5 บาท จาก 25.25 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 17.8%

– PE เท่ากับ 5.29เท่า, P/B เท่ากับ 0.76 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 6.78%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

15. CPALL : บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 583,902 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 65 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท จาก 59.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 10.2%

– PE เท่ากับ 44.96เท่า, P/B เท่ากับ 5.61 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.91%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

16. PTT : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,113,957 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 39 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท จาก 38.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 2.6%

– PE เท่ากับ 10.14เท่า, P/B เท่ากับ 1.09 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 5.16%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

17. SIRI : บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 18,161 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 1.22 บาท ลดลง -0.01 บาท จาก 1.23 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -0.8%

– PE เท่ากับ 9เท่า, P/B เท่ากับ 0.46 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 4.92%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

18. OR : บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 300,000 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 25 บาท ลดลง -2 บาท จาก 27.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -7.4%

– PE เท่ากับ 26.15เท่า, P/B เท่ากับ 3 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 1.82%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

🎯 กลุ่มที่ 3 : แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์

.

เมื่อพูดถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นส่วนสำคัญในการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า

.

สำหรับหุ้นในกลุ่มนี้ก็มี 3 เจ้าหลัก คือ

.

19. DELTA : บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 483,984 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 388 บาท ลดลง -24 บาท จาก 412.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -5.8%

– PE เท่ากับ 72.25เท่า, P/B เท่ากับ 11.69 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.43%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

20. KCE : บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 77,407 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 65.5 บาท ลดลง -22.5 บาท จาก 88.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -25.6%

– PE เท่ากับ 31.9เท่า, P/B เท่ากับ 5.79 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 2.44%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

21. HANA : บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 39,238 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 48.75 บาท ลดลง -39.75 บาท จาก 88.50 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -44.9%

– PE เท่ากับ 25.39เท่า, P/B เท่ากับ 1.7 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 4.06%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3nXZ2De

.

.

🎯 กลุ่มที่ 4 : แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน

.

อีกหนึ่งหัวใจของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า นั่นคือ แบตเตอรี่ ที่เป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะนำมาแทนที่การใช้เครื่องยนต์สันดาป (เผาใหม้ภายใน) จึงจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ที่ถือว่าเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานที่มีคุณภาพสูงในเวลานี้ เนื่องจากมีน้ำหนักเบาและยังมีอายุใช้งานที่ยาวนานกว่า จึงเหมาะกับการใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า

.

สำหรับผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ประกอบด้วย

.

22. BANPU : บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 74,427 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 11 บาท เพิ่มขึ้น 0.4 บาท จาก 10.60 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 3.8%

– PE เท่ากับ 7.55เท่า, P/B เท่ากับ 0.94 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 3.57%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > 

.

23. EA : บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 365,540 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 98 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท จาก 96.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 2.1%

– PE เท่ากับ 59.92เท่า, P/B เท่ากับ 11.25 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.31%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > 

.

24. BCPG : บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 34,729 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 12 บาท ลดลง 0 บาท จาก 12.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง 0%

– PE เท่ากับ 17.27เท่า, P/B เท่ากับ 1.28 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 2.67%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/2KzFF66

.

25. BPP : บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 50,592 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 16.6 บาท ลดลง -0.6 บาท จาก 17.20 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -3.5%

– PE เท่ากับ 16.18เท่า, P/B เท่ากับ 1.11 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 3.94%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/38W2iLk

.

26. GPSC : บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 203,725 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 72.25 บาท ลดลง -16.5 บาท จาก 88.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -18.6%

– PE เท่ากับ 27.84เท่า, P/B เท่ากับ 1.88 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 2.08%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3sD7Lyq

.

🎯 กลุ่มที่ 5 : ชิ้นส่วนประกอบแบบ Hybrid/plug-in

.

นอกจากผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบ EV100% แล้ว ยังมีกลุ่มที่เป็นส่วนประกอบแบบ Hybrid/plug-in อีก คือ

.

27. GYT : บริษัท กู๊ดเยียร์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,343 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 181.5 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท จาก 179.50 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 1.1%

– PE เท่ากับ 0เท่า, P/B เท่ากับ 0.38 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/33kqx5v

.

🎯 กลุ่มที่ 6 : อุปกรณ์สายไฟฟ้า
.

28. STANLY : บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 13,486 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 176 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท จาก 175.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 0.6%

– PE เท่ากับ 8.39เท่า, P/B เท่ากับ 0.69 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 3.12%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

29. STARK : บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 55,960 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 4.7 บาท ลดลง -0.04 บาท จาก 4.74 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -0.8%

– PE เท่ากับ 20.1เท่า, P/B เท่ากับ 8.55 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3kZtX2r

.

.

🎯 กลุ่มที่ 7 : ผู้ประกอบการรถโดยสาร EV Car

.

ผู้ประกอบรถโดยสาร EV Car เช่น รถบัสไฟฟ้า มินิบัสไฟฟ้า และรถตู้ไฟฟ้า รวมถึงเรือโดยสารไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนจากทางภาครัฐ สำหรับหุ้นในกลุ่มนี้ ประกอบด้วย

.

30. CWT : บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,420 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.3 บาท จาก 3.54 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 8.5%

– PE เท่ากับ 14.06เท่า, P/B เท่ากับ 1.45 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 1.41%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

31. NEX : บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 31,815 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 19 บาท ลดลง -0.5 บาท จาก 19.50 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -2.6%

– PE เท่ากับ 0เท่า, P/B เท่ากับ 11.11 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/38YzgdO

.

32. TWZ : บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,787 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 0.09 บาท ลดลง -0.01 บาท จาก 0.10 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -10%

– PE เท่ากับ 46.03เท่า, P/B เท่ากับ 0.36 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3rNQRNH

.

33. AJA : บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,790 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 0.54 บาท ลดลง -0.09 บาท จาก 0.63 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -14.3%

– PE เท่ากับ 0เท่า, P/B เท่ากับ 3.38 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3BBuQWV

.

34. CHO : บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,777 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 0.82 บาท ลดลง -0.2 บาท จาก 1.02 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -19.6%

– PE เท่ากับ 0เท่า, P/B เท่ากับ 1.67 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 0.00%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

🎯 กลุ่มที่ 8 : บริการเดินรถ

.

กลุ่มนี้จะเกี่ยวกับการให้บริการเดินรถตามระยะทางที่กำหนด ซึ่งให้บริการตามบริษัทใหญ่ ๆ เชน เพื่อรับส่งพนักงาน โดยใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยหุ้นดังกล่าว คือ

.

35. ATP30 : บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,460 ล้านบาท]

– โดยราคาหุ้น สิ้นปี 2564 ปิดที่ 2.14 บาท ลดลง -0.02 บาท จาก 2.16 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ ลดลง -0.9%

– PE เท่ากับ 44.09เท่า, P/B เท่ากับ 2.93 เท่า และอัตราปันผล เท่ากับ 1.40%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >

.

..

❗ หมายเหตุ :
1. โพสนี้เป็นเพียงการยกตัวอย่าง หุ้นที่มีโอกาสได้รับอานิสงค์จากเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจควรติดตามข้อมูลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอนะครับ
2. โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂
.
Reference : https://www.set.or.th

#ตลาดหุ้นไทย #หุ้นรถยนต์ไฟฟ้า #หุ้นรถEV #ผลตอบแทน #การลงทุน #iYomBizInspiration
.
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.comfacebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspirationyoutube : https://www.youtube.com/c/iYomBizInspiration