เปิด 15 หุ้นเด่นกลุ่มยานยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงในครึ่งปีแรก 2564

เปิด 15 หุ้นเด่นกลุ่มยานยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงในครึ่งปีแรก 2564

จากแผนภาพ Heatmap Sector (%เปลี่ยนแปลง ดัชนีรายอุตสาหกรรม รายเดือน ปี 2564 ที่แอดโพสให้ดูไปเมื่อวันก่อน จะสังเกตได้ว่าดัชนีอุตสาหกรรม ที่ยืนหนึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกเดือนตั้งแต่ต้นปีมา

.

นั่นคือ กลุ่มยานยนต์ (AUTO) โดยดัชนี AUTO ครึ่งแรกของปี 2564 ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง +24.4% (ดัชนี SET +9.6%)

.

และเมื่อมองมาถึงภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จริง ๆ แม้ยอดขายรถในประเทศ จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ในมุมของการส่งออก มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมูลค่าการส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา รวมอยู่ที่ 3.69 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 40%

.

สาเหตุหลักมาจากที่ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวดีขึ้น นำโดยออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน และเวียดนาม เป็นต้น ขณะที่ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น มีการปรับเปลี่ยนให้ไทยเราเป็นฐานการผลิต เพื่อส่งออกรถยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะส่งกลับญี่ปุ่น (สอีกส่วนหนึ่งเกิดจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า)

.

เป็นผลให้หุ้นในกลุ่มยานยนต์ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา แม้จะมีมูลค่าตลาดไม่สูงมากนัก ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถั่วหน้า (สูงสุดถึง 270%)

.

โพสนี้จึงจะมาเปิดให้ดู 15 หุ้นเด่นในกลุ่มยานยนต์ว่ามีอะไรบ้าง บริษัททำอะไร อัตรากำไรสุทธิงวดการดำเนินงานล่าสุด และราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมามากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ที่ผ่านมา ลองไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

.

(ข้อมูลเรียงลำดับจาก %การเพิ่มขึ้นของราคามากสุดจากสิ้นปี 63)

.


.

  1. TNPC : บริษัท ไทยนามพลาสติกส์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 895 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกกึ่งสำเร็จรูป หนังเทียมและแผ่นผืนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
  • อัตราปันผล เท่ากับ 0.48%, PE เท่ากับ 9.97 และ P/B เท่ากับ 1.92
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 2.8 บาท เพิ่มขึ้น 2.05 บาท จาก 0.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 273.3% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 46.6%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 11.54%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3qTnR6M

.

  1. ACG : บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,704 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : บริษัทโฮลดิ้ง ที่ลงทุนในบริษัทผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า และบริษัทจำหน่ายอะไหล่รถยนต์และให้บริการซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อประเภทเร่งด่วน (Fast Fit)
  • อัตราปันผล เท่ากับ 1.40%, PE เท่ากับ 66.35 และ P/B เท่ากับ 2.54
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 2.84 บาท เพิ่มขึ้น 1.76 บาท จาก 1.08 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 163% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -15%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 1.95%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3AA8uUV

.

  1. INGRS : บริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,592 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : บริษัทโฮลดิ้ง ที่ลงทุนในบริษัทผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ ในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย
  • อัตราปันผล เท่ากับ 0.00%, PE เท่ากับ 0 และ P/B เท่ากับ 1.17
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 1.1 บาท เพิ่มขึ้น 0.67 บาท จาก 0.43 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 155.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 19.6%
  • โดยผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีขาดทุนสุทธิ -0.34%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3xrcCVA

.

.

  1. TKT : บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 490 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตชิ้นส่วนพลาสติก และธุรกิจเกี่ยวกับแม่พิมพ์เพื่อการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์
  • อัตราปันผล เท่ากับ 0.00%, PE เท่ากับ 0 และ P/B เท่ากับ 1.13
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 1.16 บาท จาก 0.90 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 128.9% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 47.1%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 2.51%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3wjWwLT

.

  1. HFT : บริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 5,695 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก
  • อัตราปันผล เท่ากับ 3.87%, PE เท่ากับ 13.52 และ P/B เท่ากับ 1.68
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 3.65 บาท จาก 5.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 73% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 28.1%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 17.93%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3jPOcAV

.

  1. CWT : บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,546 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : 1. ผลิตภัณฑ์เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์
  1. พลังงานทดแทน / 3. ออกแบบและจัดจำหน่ายยานพาหนะ เรือ และรถโดยสารขนาด เล็กที่ผลิตด้วยอลูมิเนียม
  • อัตราปันผล เท่ากับ 0.00%, PE เท่ากับ 16.05 และ P/B เท่ากับ 1.61
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 4.04 บาท เพิ่มขึ้น 1.64 บาท จาก 2.40 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 68.3% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 10.67%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3ho3vPU

.

.

  1. EASON : บริษัท อีซึ่น แอนด์ โค จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,066 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายสีอุตสาหกรรม ได้แก่ สีพ่นรถจักรยานยนต์ หมึกพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ สีเคลือบบรรจุภัณฑ์ สีอุตสาหกรรมอื่นๆ
  • อัตราปันผล เท่ากับ 0.00%, PE เท่ากับ 0 และ P/B เท่ากับ 1.02
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 1.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท จาก 1.33 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 41.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 12.6%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 8.08%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3Az15W7

.

  1. SAT : บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 9,397 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น เพลาข้าง (Axle Shaft) ให้แก่ผู้ประกอบยานยนต์ (OEM) ทั้งในศและต่างประเทศ และลงทุนในบริษัทอื่นที่ประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
  • อัตราปันผล เท่ากับ 2.73%, PE เท่ากับ 18.83 และ P/B เท่ากับ 1.27
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 22.1 บาท เพิ่มขึ้น 5.7 บาท จาก 16.40 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 34.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 6.8%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 14.31%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3bWZA9g

.

  1. IRC : บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 3,680 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตผลิตภัณฑ์ยางอีลาสโตเมอร์ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆ และธุรกิจด้านการผลิตยางนอก-ยางในของรถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพสูงมาตรฐานโลก
  • อัตราปันผล เท่ากับ 3.11%, PE เท่ากับ 11.3 และ P/B เท่ากับ 0.93
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 18.4 บาท เพิ่มขึ้น 4.2 บาท จาก 14.20 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 29.6% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -3.7%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 9.07%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3Aysqrj

.

.

  1. IHL : บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,715 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจัดจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์ หนังหุ้มเบาะรถยนต์ หัวเกียร์ และพวงมาลัยรถยนต์ ชิ้นงานหนังตัดขึ้นรูป เฟอร์นิเจอร์
  • อัตราปันผล เท่ากับ 0.00%, PE เท่ากับ 0 และ P/B เท่ากับ 1.72
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 4.58 บาท เพิ่มขึ้น 1.04 บาท จาก 3.54 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 29.4% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -0.9%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 10.22%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3xqL6qY

.

  1. AH : บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 7,984 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการหลังการขาย และธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ และ IoT (Internet of Things)
  • อัตราปันผล เท่ากับ 0.60%, PE เท่ากับ 33.57 และ P/B เท่ากับ 0.91
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 22.5 บาท เพิ่มขึ้น 4.7 บาท จาก 17.80 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 26.4% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ปรับตัวลดลง -1.7%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 7.2%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2SA54zZ

.

  1. PCSGH : บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 8,845 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ มีบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 จำนวน 5 บริษัท บริษัทในประเทศเยอรมนีและฮังการี
  • อัตราปันผล เท่ากับ 4.27%, PE เท่ากับ 34.76 และ P/B เท่ากับ 1.82
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 5.8 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท จาก 4.74 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 22.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 4.5%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 9.3%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/3rtrek9

.

.

  1. TRU : บริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,659 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ออกแบบวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างแม่พิมพ์และอุปกรณ์จับยึดสำหรับการผลิต ผลิตชิ้นส่วนโลหะและพลาสติก และผลิตเบาะรถยนต์ รับจ้างพ่นสี รับจ้างประกอบและดัดแปลงรถยนต์ต่าง
  • อัตราปันผล เท่ากับ 1.33%, PE เท่ากับ 0 และ P/B เท่ากับ 0.82
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 4.5 บาท เพิ่มขึ้น 0.76 บาท จาก 3.74 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 20.3% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 14.2%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 6.22%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3hHqzrD

.

  1. STANLY : บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 14,252 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตอุปกรณ์ส่องสว่างยานยนต์ ได้แก่ หลอดไฟ ชุดโคมไฟ และแม่พิมพ์ ให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • อัตราปันผล เท่ากับ 2.97%, PE เท่ากับ 13.43 และ P/B เท่ากับ 0.76
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 186 บาท เพิ่มขึ้น 18 บาท จาก 168.00 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 10.7% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 3.9%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 8.94%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2SA4WAv

.

  1. SPG : บริษัท สยามภัณฑ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 6,038 ล้านบาท]
  • ลักษณะการประกอบธุรกิจ : ผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทน้ำมันหล่อลื่น จาระบี และแบตเตอรี่ สำหรับเครื่องยนต์และเครื่องจักรอุตสาหกรรม
  • อัตราปันผล เท่ากับ 2.57%, PE เท่ากับ 13.63 และ P/B เท่ากับ 1.12
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 30-6-2564 ปิดที่ 17.5 บาท เพิ่มขึ้น 0.9 บาท จาก 16.60 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 5.4% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (พ.ค.) ปรับตัวลดลง 0%
  • ผลการดำเนินงานในงวดล่าสุด มีอัตรากำไรสุทธิ (%Net Profit) 19.43%

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3ywNCfu

.

❗หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂

.

#หุ้นกลุ่มยานยนต์
#การลงทุน
#iYomBizInspiration

.

Reference
– https://www.set.or.th /
– https://fti.or.th/

.

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *