10 หมวดธุรกิจมูลค่าตลาดสูงสุด เปลี่ยนแปลงอย่างไร ณ สิ้น เม.ย.64

10 หมวดธุรกิจมูลค่าตลาดสูงสุด เปลี่ยนแปลงอย่างไร ณ สิ้น เม.ย.64

สำหรับโพสที่แล้ว ผมได้สรุปมูลค่าตลาดของ 10 หมวดธุรกิจที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดโดยรวม (Outperform) ไปแล้ว วันนี้จะมาดูหมวดธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 10 อันดับแรก ในวันที่ 30/4/64 ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ที่ผ่านมา

.

[มูลค่าตลาด (Market Cap.) ของตลาดรวม ปิดที่ 17.99 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 1.63 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปิดสิ้นปี 2563 (16.36 ล้านล้านบาท) ]

.

โดยสรุป หมวดธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 10 อันดับแรกในตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกหมวด แต่จะมี Outperform ตลาดอยู่ 8 หมวด คือ พลังงานและสาธารณูปโภค, พาณิชย์, ธนาคาร, อาหารและเครื่องดื่ม, พัฒนาอสังหาริมทรัพย์, วัสดุก่อสร้าง, เงินทุนและหลักทรัพย์ และหมวดสุดท้าย การแพทย์

.

และเป็นที่น่าสังเกตุว่า แม้ทั้ง 10 หมวดธุรกิจจะเพิ่มสูงขึ้นจากสิ้นปีที่ผ่านมา แต่มีเพียง 4 หมวดธุรกิจเท่านั้น ที่ยังปรับเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) คือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, วัสดุก่อสร้าง, เงินทุนและหลักทรัพย์ และการแพทย์ นอกนั้นปรับตัวลดลง

.

ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

.

(ตารางเรียงลำดับ ตามหมวดธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด)

.

1. พลังงานและสาธารณูปโภค

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 4,008,563 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 14.5% หรือเพิ่มขึ้น 507,340 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 3,501,223 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ปรับตัวลดลง 0.9%

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : PTT (-6%), PTTEP (+21%), GULF (+1%)

.

2. พาณิชย์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 1,708,530 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.7% หรือเพิ่มขึ้น 178,575 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,529,955 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ปรับตัวลดลง 3.8 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : CPALL (+7%), CRC (+14%), HMPRO (+3%)

.

3. ธนาคาร

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 1,668,941 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 12.9% หรือเพิ่มขึ้น 190,762 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,478,179 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ปรับตัวลดลง 5.1 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : SCB (+20%), KBANK (+17%), BAY (+20%)

.

4. ขนส่งและโลจิสติกส์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 1,380,993 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3% หรือเพิ่มขึ้น 40,172 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,340,821 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ปรับตัวลดลง 7.7 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : AOT (-0.4%), BEM (-4%), BTS (-4%)

.

5. อาหารและเครื่องดื่ม

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 1,136,376 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 11.2% หรือเพิ่มขึ้น 114632 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,021,744 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ปรับตัวลดลง 2.9 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : CPF (+8%), MINT (+17%), CBG (-2%)

.

6. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 1,092,507 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 6.7% หรือเพิ่มขึ้น 68,181 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,024,326 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2.1 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : ADVANC (-3%), INTUCH (+13%), TRUE (-5%)

.

7. พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 1,009,308 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10.5% หรือเพิ่มขึ้น 96,049 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 913,259 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ปรับตัวลดลง 4 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : CPN (+9%), AWC (+4%), LH (+9%)

.

8. วัสดุก่อสร้าง

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 867,877 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 24% หรือเพิ่มขึ้น 167,952 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 699,925 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 14.4 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : SCC (+22%), TOA (+3%), SCCC (+34%)

.

9. เงินทุนและหลักทรัพย์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 821,428 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 24.6% หรือเพิ่มขึ้น 162,168 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 659,260 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 0.4 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : KTC (+28%), MTC (+8%), SAWAD (+27%)

.

10. การแพทย์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือน เม.ย.64 เท่ากับ 751,347 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10.6% หรือเพิ่มขึ้น 72,165 ล้านบาท จากสิ้นปี 2563 ที่ 679,182 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มี.ค.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 3.4 %

หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม : BDMS (+4%), BH (+12%), BCH (+33%)

.
.

❗หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂

.

Reference
– https://www.set.or.th /

.

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *