10 อันดับ หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ ราคาเด้งมากสุดในรอบเดือน รับคลายมาตรการ LTV

10 อันดับ หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ ราคาเด้งมากสุดในรอบเดือน รับคลายมาตรการ LTV


หลังจากที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตราการผ่อนคลายเกณฑ์มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV (Loan to Value) โดยกำหนดให้สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 100% (จากปกติอยู่ที่ 70-90%) จนถึงสิ้นปี 2565 รวมถึงการ Refinance และสินเชื่อ Top-Up ด้วย

.

ซึ่งถ้าใครยังไม่รู้จักมาตรการ LTV (Loan to Value) มันก็คือ มาตรการที่ควบคุมความร้อนแรงของตลาดอสังฯ โดยปกติ LTV จะอยู่ที่ไม่เกิน 90% แปลว่า ถ้าราคาบ้านที่ 1 ล้านบาท เราสามารถจัดไฟแนนซ์บ้าน เพื่อขอสินเชื่อได้เพียง 9 แสนบ้านเท่านั้น ส่วนอีก 1 แสนบาทต้องจ่ายเป็นเงินดาวน์
อีกทั้งมาตรการ LTV ดั้งเดิม ยังควบคุมคนที่ต้องการมีบ้านหลังที่สองเข้มงวด

.

ทำให้การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจาก ทั้งกลุ่มผู้บริโภค และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กันทั่ว เพราะเชื่อว่าจะทำให่ตลาดอสังหา ฯ กลับมาคึกคักในช่วงต่อจากนี้

.

โพสนี้จึงจะมาสำรวจ 10 อันดับหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ ณ ราคาวันที่ 21/10/64 เทียบกับราคาปิดสิ้นเดือน ก.ย.64 ที่ราคาเด้งมากสุดในรอบเดือน รับคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้

.

  1. BROCK : บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,604 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 2.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.98 บาท จาก 1.56 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 62.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 59.7%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 53.26 เท่า และมี PB เท่ากับ 2.07 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > http://bit.ly/2N3e7XT

.

  1. SAMCO : บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,489 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 2.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.8 บาท จาก 1.52 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 52.6% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 91.7%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 13.25 เท่า และมี PB เท่ากับ 0.63 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3EfUmkL

.

  1. PRECHA : บริษัท ปรีชากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 531 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 1.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.48 บาท จาก 1.1 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 43.6% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 85.9%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ NA เนื่องจาก ผลการดำเนินงานล่าสุด ขาดทุน และมี PB เท่ากับ 1.33 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2ZkDNoT

.

  1. CI : บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,344 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 1.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท จาก 0.91 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 38.5% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 65.8%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ NA เนื่องจาก ผลการดำเนินงานล่าสุด ขาดทุน และมี PB เท่ากับ 0.96 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3jB6y7X

.

  1. NCH : บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 2,204 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 1.77 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท จาก 1.42 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 24.6% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 113.3%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 12.3 เท่า และมี PB เท่ากับ 0.8 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3rz5RyF

.

  1. MJD : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,807 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 2.1 บาท เพิ่มขึ้น 0.37 บาท จาก 1.73 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 21.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 28.8%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ NA เนื่องจาก ผลการดำเนินงานล่าสุด ขาดทุน และมี PB เท่ากับ 0.33 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3jBPnDi

.

  1. ORI : บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 28,208 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 11.5 บาท เพิ่มขึ้น 1.5 บาท จาก 10 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 15% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 52.3%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 9.29 เท่า และมี PB เท่ากับ 2.33 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3mnd3eB

.

  1. NVD : บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 3,949 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท จาก 2.58 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 10.9% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 32.4%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 146.41 เท่า และมี PB เท่ากับ 0.88 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3Bg18VG

.

  1. GLAND : บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 15,990 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท จาก 2.22 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 10.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 12.8%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 29.36 เท่า และมี PB เท่ากับ 1.12 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3Bg0sjt

.

  1. SC : บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 14,660 ล้านบาท]
  • โดยราคาหุ้นวันที่ 21-10-2564 ปิดที่ 3.5 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท จาก 3.22 บาท เมื่อสิ้นเดือน ก.ย.2564 หรือ เพิ่มขึ้น 8.7% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ปรับตัวเพิ่มมาแล้ว 25.9%
  • ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 7.05 เท่า และมี PB เท่ากับ 0.78 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2LlBzPs

.

❗หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂

.

Reference
– https://www.set.or.th /

.

iYomBizInspiration #ตลาดหุ้นไทย #การลงทุน #หุ้นพัฒนาอสังหา #มาตราการLTV #ธนาคารแห่งประเทศไทย

.
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration
youtube : https://www.youtube.com/channel/UCBI4SLQ23jhF7NQ071T7BCA

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *