10 สินค้าโภคภัณฑ์ ราคาเปลี่ยนไปเท่าไหร่ ในปี 2565
สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ (Commodities Product) เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่เรามักจะรู้กันดีในแง่ของ ต้นทุนวัตถุดิบ ตุ้นในการดำเนินงานของบริษัท อย่างที่เห็นภาพชัดเจนที่สุด ก็ที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา จากสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตั้งแต่ต้นปี 2565 ทำให้ราคาสินค้ารอบตัวต่างปรับราคาเพิ่มขึ้น
.
หรือจะเป็นสินค้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอย่าง ยางพารา หรือ เหล็ก ที่ราคาในปีที่ผ่านมา ต่างปรับตัวลดลง ล้วนส่งผลกระทบกับ บริษัทที่ผลิตและแปรรูป จะเห็นได้ชัดเจนอย่างบริษัทที่ผลิตถุงมือยาง ที่ผลการดำเนินงานลดฮวบฮาบ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงมาก
.
หรือไม่อย่างบริษัทในกลุ่มเหล็กต่างมีผลการดำเนินงานที่ลดลง หรือไม่บางบริษัทก็ถึงกับขาดทุน หลังจากที่ปี 64 ต่างสร้างผลกำไรได้อย่างโดดเด่น จากการที่ราคาเหล็กปรับขึ้นไปสูง แต่มาในปี 2565 ที่ราคาเหล็กปรับตัวลดลงแล้ว
.
หรืออย่างสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในปี 2565 ที่ผ่านมา นั่นคือ ถ่านหิน จึงส่งผลให้ บริษัทในกลุ่มนี้ยังคงสร้างกำไรเติบโตได้อย่างโดดเด่น อย่างที่เราได้เห็นกันอยู่
.
เห็นไหมครับว่า สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่นักลงทุนต้องเข้าใจและใส่ใจในการลงทุนด้วย เพราะเป็นทั้งต้นทุนทางตรง และต้นทุนทางอ้อมในการดำเนินธุรกิจ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน จนมาถึงเงินปันผลที่เราจะได้รับ
.
ซึ่งปกติสินค้าโภคภันฑ์จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ
1. กลุ่ม Soft Commodities : จะเป็นพวกสินค้าทางการเกษตรต่าง ๆ เช่น ข้าว ยาง เมล็ดกาแฟ เนื้อสัตว์ หรือแม้กระทั่งที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ตอนนี้ ก็คือ กัญชาและกัญชง
2. กลุ่ม Hard Commodities : สินค้าประเภทวัตถุดิบต่าง ๆ ที่สกัดจากเหมือง เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง เป็นต้น
3. กลุ่ม Energy Commodities : สินค้าวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตพลังงาน เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน เป็นต้น
.
เราไปเช็คดูครับว่า 10 สินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ ณ สิ้นปี 2565 มีราคาเปลี่ยนไปเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับต้นปี
.
.
1. น้ำมันดิบ Crude Oil WTI
โดยราคาน้ำมันดิบ สิ้นปี 2565 ปิดที่ 80.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้น 74.88 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 7.44% จาก 74.88 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เมื่อต้นปี
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 119.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 71.43 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
.
2. ทองคำ Gold
โดยราคาทองคำ วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 1,824.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 0.97% จาก 1806.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 2052.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1621.57 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
.
3. ถ่านหิน Coal
โดยราคาถ่านหิน วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 404.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 4.72% จาก 385.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 457.8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 157.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน
.
4. ทองแดง Copper
โดยราคาทองแดง วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 3.81 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ หรือเพิ่มขึ้น 2.57% จาก 3.7145 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 4.8975 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 3.213 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์
.
5. เงิน Silver
โดยราคาเงิน วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 23.97 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 18.36% จาก 20.247 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 26.387 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 17.85 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
.
6. เหล็ก Steel Rebar
โดยราคาเหล็ก วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 4,019.00 หยวนต่อตัน ปรับตัวลดลง -482.00 หยวนต่อตัน หรือลดลง -10.71% จาก 4501 หยวนต่อตัน เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 5209 หยวนต่อตัน และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 3464 หยวนต่อตัน
.
7. ยางธรรมชาติ Rubber
โดยราคายางธรรมชาติ วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 130.20 เยนต่อกิโลกรัม ปรับตัวลดลง -34.40 เยนต่อกิโลกรัม หรือลดลง -20.90% จาก 164.6 เยนต่อกิโลกรัม เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 185 เยนต่อกิโลกรัม และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 117.5 เยนต่อกิโลกรัม
.
8. ข้าว Rice
โดยราคาข้าว วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 18.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อฮันเดรดเวท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อฮันเดรดเวท หรือเพิ่มขึ้น 9.82% จาก 16.745 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อฮันเดรดเวท เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 18.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อฮันเดรดเวท และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 14.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อฮันเดรดเวท
.
9. กาแฟ Coffee
โดยราคากาแฟ วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 167.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ ปรับตัวลดลง -66.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ หรือลดลง -28.41% จาก 233.7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 258.35 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 152.7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์
.
10. น้ำมันปาล์มดิบ Palm Oil
โดยราคาน้ำมันปาล์มดิบ วันที่ 22/07/2565 ปิดที่ 4,174.00 ริงกิตมาเลเซียต่อตัน ปรับตัวลดลง -736.00 ริงกิตมาเลเซียต่อตัน หรือลดลง -14.99% จาก 4910 ริงกิตมาเลเซียต่อตัน เมื่อต้นเดือน ก.ค.65
ส่วนในรอบปี 2565 ราคาเคยขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 7104 ริงกิตมาเลเซียต่อตัน และเคยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 3226 ริงกิตมาเลเซียต่อตัน
.
.
Reference
– https://www.tradingeconomics.com
.
#ราคาน้ำมันดิบ #ราคาเหล็ก #ราคาถ่านหิน #ราคาทองคำ #สินค้าโภคภัณฑ์ #การลงทุน #iYomBizInspiration
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
youtube : https://www.youtube.com/c/iYomBizInspiration
website : https://iyom-bizinspiration.com/
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration