เช็คมูลค่าตลาด 10 หมวดธุรกิจ ประจำปี 2565
ปรับตัวเพิ่มมากสุด และ ปรับตัวลงมากสุด

เช็คมูลค่าตลาด 10 หมวดธุรกิจ ประจำปี 2565ปรับตัวเพิ่มมากสุด และ ปรับตัวลงมากสุด

สำหรับโพสแรกของปี เรามาสำรวจ 10 อันดับ มูลค่าตลาดหมวดธุรกิจ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุด และปรับตัวลดลงมากสุดจากต้นปี พร้อมทั้งหุ้นในกลุ่มที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากสุด 3 อันดับแรก

.

.

1. ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 1,210,789 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 57.4% หรือเพิ่มขึ้น 441,707 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 769,082 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : DELTA (+101%)

TEAM (+61%)

SVI (+22%)

.

2. ประกันภัยและประกันชีวิต

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 363,542 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 55% หรือเพิ่มขึ้น 128,988 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 234,554 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : INSURE (+514%)

NSI (+154%)

KWI (+66%)

.

3. การท่องเที่ยวและสันทนาการ

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 148,626 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36.9% หรือเพิ่มขึ้น 40,047 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 108,579 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : CENTEL (+61%)

ERW (+49%)

SHR (+36%)

.

4. การแพทย์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 1,001,767 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.1% หรือเพิ่มขึ้น 167,596 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 834,171 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : THG (+84%)

BH (+50%)

BDMS (+26%)

.

5. พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 1,225,349 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.3% หรือเพิ่มขึ้น 162,357 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 1,062,992 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : AWC (+36%)

CPN (+26%)

LH (+13%)

.

6. บริการเฉพาะกิจ

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 26,306 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.1% หรือเพิ่มขึ้น 3,449 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 22,857 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : SISB (+104%)

.

7. ขนส่งและโลจิสติกส์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 1,579,894 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.3% หรือเพิ่มขึ้น 172,907 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 1,406,987 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : AOT (+23%)

AAV (+20%)

BEM (+16%)

.

8. พาณิชย์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 2,117,796 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.8% หรือเพิ่มขึ้น 134,568 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 1,983,228 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : CRC (+45%)

CPALL (+16%)

BJC (+14%)

.

9. แฟชั่น

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 51,205 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.2% หรือเพิ่มขึ้น 2,542 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 48,663 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : CPH (+705%)

TNL (+83%)

SABINA (+18%)

.

10. พลังงานและสาธารณูปโภค

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 4,373,895 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.1% หรือเพิ่มขึ้น 174,127 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 4,199,768 ล้านบาท

หุ้นที่เพิ่มขึ้นมากสุดในกลุ่ม : PTTEP (+50%)

GULF (+21%)

BANPU (+29%)

.

.

1. ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 60,645 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -47.5% หรือลดลง -54,847 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 115,492 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : STGT (-67%)

NV (-64%)

BIZ (-29%)

.

2. วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 53,330 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -33.8% หรือลดลง -27,179 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 80,509 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : KKC (-70%)

STARK (-47%)

CTW (-30%)

.

3. เหล็ก และ ผลิตภัณฑ์โลหะ

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 64,961 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -25% หรือลดลง -21,604 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 86,565 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : GJS (-29%)

TSTH (-24%)

TMT (-24%)

.

4. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 1,194,103 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -23.9% หรือลดลง -375,976 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 1,570,079 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : JTS (-66%)

JMART (-29%)

ADVANC (-15%)

.

5. ธุรกิจการเกษตร

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 92,136 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -15.3% หรือลดลง -16,655 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 108,791 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : STA (-32%)

EE (-54%)

TFM (-19%)

.

6. บรรจุภัณฑ์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 324,769 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -14.9% หรือลดลง -56,725 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 381,494 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : EE (-62%)

STA (-31%)

VPO (-33%)

.

7. ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 16,886 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -14.1% หรือลดลง -2,763 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 19,649 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : AJA (-67%)

FANCY (-47%)

KYE (-9%)

.

8. สื่อและสิ่งพิมพ์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 209,519 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -12.8% หรือลดลง -30,890 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 240,409 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : VGI (-31%)

BEC (-28%)

ONEE (-26%)

.

9. ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 512,002 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -10.7% หรือลดลง -61,220 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 573,222 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : PTTGC (-20%)

TCCC (-15%)

IVL (-6%)

.

10. กระดาษและวัสดุการพิมพ์

โดยมูลค่าตลาด ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 10,725 ล้านบาท ปรับตัวลดลง -9.3% หรือลดลง -1,105 ล้านบาท จากต้นปี  ที่ 11,830 ล้านบาท

หุ้นที่ลดลงมากสุดในกลุ่ม : UTP (-9%)

.

❗ หมายเหตุ :

1. โพสนี้จัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂

.

Reference

– https://www.set.or.th/

#ตลาดหุ้นไทย #มูลค่าตลาด #การลงทุน #iYomBizInspiration

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจ ง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่

website http://iyom-bizinspiration.com

facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration

youtube : https://www.youtube.com/c/iYomBizInspiration

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *