(หุ้น IPO) NSL เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ แซนวิช 3 พันล้านที่คุณคุ้นเคย

(หุ้น IPO) NSL เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ แซนวิช 3 พันล้านที่คุณคุ้นเคย

“หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา” สโลแกนร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และทุกครั้งที่หิว เชื่อว่าหลายคนมักจะเดินตรงไปที่ตู้แช่เย็นเพื่อมองหา แซนวิชสักชิ้น แล้วหยิบให้พนักงานอุ่นร้อน เพื่อคลายหิวโดยไว

.

ใครจะรู้ครับว่าแซนวิชอบร้อนที่คุณซื้อใน 7-ELEVEN ทุกสาขาทั่วประเทศ หนึ่งในผู้ผลิตหลักที่ป้อนให้จะเป็นของ บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL หุ้นน้องใหม่ที่กำลังเปิดจอง IPO (11-13 พ.ค.2564)

.

ก่อนไปจอง IPO มาเล่าประวัติ NSL กันคร่าว ๆ สักนิด โดย NSL ก่อตั้งโดยคุณสมชาย อัศวปิยานนท์ ที่แรกเริ่มเดิมทีใช้ชือว่า Dough Maker (บริษัท โดเมคเกอร์ จำกัด) ก่อตั้งเมื่อปี 2546 (กว่า 18 ปีมาแล้ว) ซึ่งเริ่มต้นจากการผลิตสินค้าประเภทอาหารตามความต้องการของลูกค้า เช่น อาหารกล่องแช่แข็ง

.

โดยจุดเปลี่ยนสำคัญ เกิดขึ้นหลังจากบริษัทเริ่มเข้าสู่ธุรกิจเบเกอรี่พร้อมรับประทาน ที่ส่งให้กับร้านสะดวกซื้อ ทำให้ธุรกิจเติบโตพร้อมกับการขยายสาขาขึ้นอย่างรวดเร็วของร้านสะดวกซื้อดังกล่าว คุณสมชาย จึงตัดสินใจมุ่งเน้นผลิตสินค้าเบเกอรี่เพียงอย่างเดียว พร้อมกับการขยายไลน์การผลิตที่มากขึ้น

.

การปรับธุรกิจให้มีความชัดเจน อีกทั้งการปรับปรุงทั้งศักยภาพและมาตรฐานการผลิต ทำให้ 7-ELEVEN เห็นถึงจุดแข็งดังกล่าว จึงทำสัญญาเพื่อให้ทาง NSL จัดส่งสินค้าสินค้าประเภทเบเกอรี่ต่างๆ ให้แก่ร้าน 7-ELEVEN ทั่วประเทศ จน NSL สามารถสร้างรายได้ถึงกว่า 3 พันล้านบาท

.

ซึ่งปัจจุบัน ธุรกิจหลักของ NSL คือการเป็นผู้ผลิตแซนด์วิชอบร้อนอันดับหนึ่ง ให้กับร้านสะดวกซื้อ 7-ELEVEN กว่า 12,000 สาขาทั่วประเทศ ในหมวดเบเกอรีมากกว่า 40 รายการ ในส่วนกำลังการผลิตอยู่ที่ 1,250,000 ชิ้นต่อวัน

.

นอกเหนือจากแซนด์วิชอบร้อนและผลิตภัณฑ์เบเกอรีที่จำหน่ายใน 7-ELEVEN ยังมีสินค้าในหมวดอื่นๆ เช่น ขนมปังเนื้อนุ่มและขนมปังโฮลวีท ภายใต้แบรนด์ “Bakery Arigato” จำหน่ายในท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต และแฟมิลี่มาร์ท “Natural Bites” ขนมเพื่อสุขภาพ “ChiLee” ขนมพริกกรอบ “Pangtai” พายแท่งและขนมปังกรอบ

.

นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้าอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เจาะเข้าเชนร้านอาหาร โรงแรม และซูเปอร์มาร์เกต อีกด้วยด้วย

.

โดยเมื่อดูผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ ปี 2558
.

ปี 2558 : รายได้ 2,100 ล้านบาท (กำไรขั้นต้น 18.9%), กำไรสุทธิ 25 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 1.2%)
ปี 2559 : รายได้ 2,814 ล้านบาท (กำไรขั้นต้น 18.9%), กำไรสุทธิ 45 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 1.6%)
ปี 2560 : รายได้ 3,022 ล้านบาท (กำไรขั้นต้น 18.9%), กำไรสุทธิ 76 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 2.5%)
ปี 2561 : รายได้ 3,164 ล้านบาท (กำไรขั้นต้น 13.5%), กำไรสุทธิ 79 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 2.5%)
ปี 2562 : รายได้ 3,373 ล้านบาท (กำไรขั้นต้น 14.9%), กำไรสุทธิ 156 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 4.6%)
ปี 2563 : รายได้2,928 ล้านบาท (กำไรขั้นต้น 16.2%), กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท (อัตรากำไรสุทธิ 5.2%)

.

โดยรายได้เติบโตเฉลี่ยที่ 7% ต่อปี และมีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 43% ต่อปี

.

ในขณะที่สัดส่วนรายได้ของ NSLในปี 2563 : 94.5% อยู่ในกลุ่มเบเกอรี่และรองท้อง, Food Service 4.5%, ขนมขบเคี้ยวที่มีแบรนด์ของตนเอง 0.5% และ รับจ้างผลิตเบเกอรี่ 0.5%

.

ในส่วนรายละเอียดของการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ แผนระดมทุนที่ 900 ล้านบาท
ราคา IPO 12.00 บาท / จำนวนหุ้น 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยมี PE ประมาณ24 เท่า (คิดจากจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเสนอขาย)
จุดประสงค์การใช้เงิน (ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 350 ลบ., เงินทุนหมุนเวียน 200 ลบ., ลงทุนโครงการใหม่ 350 ลบ.)
เปิดจอง 11-13 พ.ค. 2564 (แบบ Firm Underwriting*) / เปิดเทรดวันแรก 19 พ.ค. 2564

(*Firm Underwriting ผู้รับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ จะต้องรับซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดหลังจากการจองซื้อ ฉะนั้น จะเป็นการรับรองได้ว่า NSL จะได้รับเงินลงทุนครบตามจำนวน)

.

โดยเป้าหมายในอีก 5 ปี (ภายในปี 2568) ข้างหน้า NSL ตั้งเป้ารายได้ที่ 5,000 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสินค้าภายใต้แบรนด์ของ NSL เป็น 30% เพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ ผ่านกลยุทธ์ “Nutrition Sustainable for Life” มุ่งสู่การเป็นผู้นำพัฒนานวัตกรรมด้านอาหารที่ยั่งยืน

.

ข้อสุงเกตุ (ความเห็นส่วนตัว)

แม้ NSL จะมีรายได้มั่นคงจากการมีลูกค้าหลัก คือ 7-ELEVEN แต่มีสัดส่วนกว่า 90% ทำให้ถือเป็นความเสี่ยงหลักในแง่ธุรกิจ เพราะเป็นการพึ่งพิงรายได้จากลูกค้าหลักเพียงเจ้าเดียว และสัญญาที่ทำกับ 7-ELEVEN จะสิ้นสุดลงในปี 2569 ซึ่งแม้ปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งชี้การไม่ต่ออายุสัญญาก็ตาม ซึ่งหาก CPALL บอกเลิกสัญญาหรือไม่ต่อ ทำให้ NSL จะต้องเข้าสู่การแข่งขันแบบเสรีกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่ต้องการเอาสินค้ามาขายใน 7-ELEVEN เช่นเดียวกัน
ROE ของ NSL อยู่ในระดับสูงกว่า 30% ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้ประโยชน์จากหนี้สิน โดยปี 2563 บริษัทมี DE สูงถึง 2.46 เท่า

.

สามารถอ่านรายละเอียดข้อมูลแบบ Filing (หนังสือชีัชวน) ฉบับเต็มของ NSL ได้ที่ > 

.

และสำหรับผู้ที่สนใจจองซื้อ IPO สามารถติดต่อได้ที่
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
โทรศัพท์ 02-680-4004, http://www.asiaplus.co.th)

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ : 02-658-9500, 02-658-9000, https://www.fnsyrus.com

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
โทรศัพท์ : 02-682-5907, https://www.globlex.co.th

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด
โทรศัพท์ 02-695-5000, https://www.ktzmico.com

บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 02-088-9999, https://www.th.rhbtradesmart.com

.

หมายเหตุ
โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้สะท้อนผลการดำเนินงานในอนาคต เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอนะครับ ☺️

.

Reference
– https://www.sec.or.th
– https://www.dbd.go.th

.

.

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration ดูน้อยลงแก้ไขถูกใจแสดงความคิดเห็นแชร์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *