เช็คราคา 15 หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลราคาเพิ่มสูงสุด จากสิ้นปี 2563 (ณ สิ้นเดือน ก.ค.2564)

เช็คราคา 15 หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลราคาเพิ่มสูงสุด จากสิ้นปี 2563 (ณ สิ้นเดือน ก.ค.2564)

หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล หรือกลุ่มการแพทย์ (HEALTH) เป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจในปีนี้ เพราะเมื่อดูดัชนีของหุ้นกลุ่มนี้ที่ Outperform ตลาด โดยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 18% จากสิ้นปี 2563 ในขณะทีดัชนี SET มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 5% เท่านั้น

.

อีกทั้งเมื่อดูดัชนีกลุ่ม HEALTH มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว 5 เดือนติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนมี.ค. ที่ผ่านมา

.

ซึ่งสิ่งที่ทำให้หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น คงหนีไม่พ้นในเรื่องของผลการดำเนินงาน ที่น่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือ

.

  1. วัคซีนทางเลือกที่กำลังเข้ามา จะทำให้กลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้รับอานิสงส์จากการเป็นตัวแทนนำเข้าวัคซีนทางเลือก (ถึงแม้จะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ในการเข้ารับบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆด้วยเช่นกัน)

เช่น BCH, VIBHA, BDMS และ THG เป็นต้น

.

  1. การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีนี้ (ระลอก 3-4) ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักในเกือบทุกพื้นที่ จนทำให้โรงพยาบาลขนาดเล็ก มีอัตราการเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น จากการเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากประชาชนในท้องที่ แม้โรงพยาบาลขนาดเล็กจะยังไม่ได้รับโควต้ากระจายวัคซีนทางเลือก แต่ก็มีบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เข้ามาเสริมอยู่ตลอด

เช่น EKH, CMR, RJH และ RPH เป็นต้น

.

โพสนี้จึงจะมาดูว่า 15 หุ้นใรกลุ่มโรงพยาบาล ผลตอบแทนราคา ณ สิ้นเดือน ก.ค. 2564 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเที่ยบกับสิ้นปี 2563 ที่ผ่านมา

.

(ข้อมูลเรียงลำดับตาม %การเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุด เมื่อเทียบกับสิ้นปี 63)

.

  1. CMR : บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 14,081 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 3.5 บาท เพิ่มขึ้น 1.74 บาท จาก 1.76 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 98.9% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 32.6% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 78 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/36eYXVR

.

  1. BCH : บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 65,461 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 26.25 บาท เพิ่มขึ้น 12.65 บาท จาก 13.6 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 93% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 13.1% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 51 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3ccnUVW

.

  1. VIH : บริษัท ศรีวิชัยเวชวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 7,590 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 13.3 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท จาก 7.3 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 82.2% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 15.7% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 37 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3iXhyNe

.

  1. CHG : บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 46,420 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 4.22 บาท เพิ่มขึ้น 1.76 บาท จาก 2.46 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 71.5% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 6% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 49 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/36a4zRq

.

  1. VIBHA : บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 32,582 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 2.4 บาท เพิ่มขึ้น 0.93 บาท จาก 1.47 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 63.3% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.7% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 66 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2YgFjnW

.

  1. EKH : บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 4,800 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 8 บาท เพิ่มขึ้น 3.02 บาท จาก 4.98 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 60.6% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 13.5% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 51 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3comWGf

.

  1. RJH : บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 11,100 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 37 บาท เพิ่มขึ้น 13.3 บาท จาก 23.7 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 56.1% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 19.4% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 25 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3oedqHH

.

  1. SKR : บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 20,193 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 10.1 บาท เพิ่มขึ้น 3.6 บาท จาก 6.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 55.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 54 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3fAsEV4

.

  1. LPH : บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 4,838 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 6.45 บาท เพิ่มขึ้น 1.87 บาท จาก 4.58 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 40.8% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 17.3% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 33 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/35EGYrf

.

  1. WPH : บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 1,320 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 2.2 บาท เพิ่มขึ้น 0.46 บาท จาก 1.74 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 26.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 6.8% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 0 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/2Ybqp2u

.

  1. RPH : บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 3,740 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 6.85 บาท เพิ่มขึ้น 1.3 บาท จาก 5.55 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 23.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 34.3% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 45 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3lkhXKZ

.

  1. PR9 : บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 8,649 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 11 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท จาก 9 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 22.2% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ปรับตัวลดลง 0% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 43 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3iTixMv

.

  1. THG : บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 26,109 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 30.75 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท จาก 25.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 19.4% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 10.8% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 0 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3sXUSPt

.

  1. PRINC : บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) [มูลค่าตลาด 17,291 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 4.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.54 บาท จาก 4 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 13.5% อีกทั้งเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2.7% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 0 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3iThJXZ

.

  1. BDMS : บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) [มูลค่าตลาด 357,570 ล้านบาท]

โดยราคาหุ้น ณ สิ้นเดือน ก.ค.64 ปิดที่ 22.5 บาท เพิ่มขึ้น 1.7 บาท จาก 20.8 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือ เพิ่มขึ้น 8.2% แต่เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ปรับตัวลดลง -2.2% ซึ่งปัจจุบันมีค่า PE เท่ากับ 60 เท่า

ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ > https://bit.ly/3qMug20

.
.

❗หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂

.

Reference
– https://www.set.or.th /

.

#หุ้นโรงพยาบาล
#การลงทุน
#iYomBizInspiration

.

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *