โผ 20 หุ้นต่ำบาท พุ่งแรงแต่ ต้องระวัง ! (มี.ค.2564)
หุ้นต่ำบาท (ราคาต่ำกว่าหนึ่งบาท) เป็นหุ้นอีกกลุ่มหนึ่ง ที่นักลงทุนเก็งกำไรชอบเข้าเล่น โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ เพราะด้วยต้นทุนราคาต่ำ อีกทั้งถ้าราคาขยับขึ้นแม้เพียงสตางค์เดียว ก็ทำกำไรได้มากมาย ทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนมือใหม่ ที่มองว่าน่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จะทำกำไร
แต่หุ้นกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มที่ต้องระวัง เพราะโดยส่วนใหญ่มักไม่มีปัจจัยพื้นฐานใดจะมาสนับสนุนบริษัท อีกทั้งหลายต่อหลายบริษัท มีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และที่หนักกว่านั้น บางตัวก็ติดเครื่องหมายแจ้งเตือนต่าง ๆ ให้นักลงทุนต้องระวัง
จึงทำให้หุ้นเหล่านี้อาจกลายเป็นกับดักให้นักลงทุนมือใหม่ ถูกล่อให้เข้ามาเจ็บตัวและขาดทุนกันอย่างหนักเช่นเดียวกัน
จากการสำรวจการซื้อขายของหุ้นต่ำบาท ในวันที่ 26-3-2564 มีถึง 112 บริษัท โดยมีถึง 90 บริษัทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก สิ้นเดือน ก.พ. 2564 โดย
– ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% มี 2 บริษัท
– ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50-100% มี 17 บริษัท
– ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10-49% มี 63 บริษัท
– ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1-9% มี 8 บริษัท
ซึ่งมีบริษัทที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 อันดับแรก นำโดย
อันดับ 1 : DIMET เพิ่มขึ้น 280% หรือเพิ่มขึ้น 0.28 บาท จากราคา 0.10 ในสิ้นเดือน ก.พ.2564 มาเป็น 0.38 บาท
อันดับ 2 : JCKH เพิ่มขึ้น 117.2% หรือเพิ่มขึ้น 0.34 บาท จากราคา 0.29 ในสิ้นเดือน ก.พ.2564 มาเป็น 0.63 บาท
อันดับ 3 : MAX เพิ่มขึ้น 100% หรือเพิ่มขึ้น 0.01 บาท จากราคา 0.01 ในสิ้นเดือน ก.พ.2564 มาเป็น 0.02 บาท
อันดับ 4 : EVER เพิ่มขึ้น 95.5% หรือเพิ่มขึ้น 0.21 บาท จากราคา 0.22 ในสิ้นเดือน ก.พ.2564 มาเป็น 0.43 บาท
อันดับ 5 : 7UP เพิ่มขึ้น 87.2% หรือเพิ่มขึ้น 0.41 บาท จากราคา 0.47 ในสิ้นเดือน ก.พ.2564 มาเป็น 0.88 บาท
สิ่งที่ต้องพึงระวังในการลงทุนหุ้นต่ำบาท ก็คือ
1. จาก 13 ใน 20 บริษัท มีการขาดทุนในผลการดำเนินงานล่าสุด และเมื่อย้อนกลับไปดูส่วนใหญ่มักมีการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง
2. หุ้นในกลุ่มนี้มักจะติดเครื่องหมายไม่พึงประสงค์ ทำให้บางครั้งนักลงทุนมือใหม่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ เข้าไปลงทุนโดยไม่ทันสังเกต เช่น
C ที่หมายถึง บริษัทจดทะเบียนมีเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจ ผู้ลงทุนให้เพิ่มความระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
SP (Trading Suspension) : การห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับการขึ้นเครื่องหมาย H แต่บริษัทยังไม่ สามารถชี้แจงหรือเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯได้ หรืออาจฝ่าฝืน ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งไม่ส่งงบการเงินให้ภายในเวลากำหนด
NP (Notice Pending) : บริษัทมีข้อมูลที่ต้องรายงาน และตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท
3. หุ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นตัวเล็ก ำ จึงยากต่อการหาบทวิเคราะห์ หรือคาดการณ์ผลกำไร (อาจไม่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว)
4.หุ้นขนาดเล็กมักมีแรงเก็งกำไรและปรับตัวขึ้นได้ดียามที่ดัชนีฯ เป็นขาขึ้น แต่หากมีการปรับฐาน หุ้นกลุ่มนี้จะมีแรงขายก่อน
ดังนั้น การลงทุนไม่ใช่แค่ดูเรื่องของราคาขึ้นลงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ขอให้ศึกษารายละเอียดและปัจจัยอื่น ๆ ให้รอบคอบก่อนการลงทุนเสมอนะครับ หวังว่าโพสนี้จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่ได้เข้าใจและระมัดระวังในการลงทุน (เก็งกำไร) ในหุ้นต่ำบาทมากขึ้น
หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้น เพื่อให้ระมัดระวังในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ🙂
Reference
– https://www.set.or.th /
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration