เช็คมูลค่า 8 หมวดธุรกิจ ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาด (Outperform)

ล่วงเลยปีใหม่มาแล้วครึ่งเดือน เช็คมูลค่าตลาด (Market Cap.) โดยรวมกัน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณ 5% จากสิ้นปี 2563 ที่ 16,107,633 ล้านบาท มาปิดที่ 16,891,413 ในวันที่ 15/1/2564 ที่ผ่านมา

แม้มูลค่าตลาดโดยรวมจะปรับขึ้นเพียงแค่ 5% แต่ใครจะรู้ว่ามีบางหมวดธุรกิจที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงสูงถึง 20% สูงกว่ามูลค่าตลาดโดยรวม วันนี้จึงมาเช็คมูลค่าตลาดในหมวดธุรกิจที่ปรับตัวสูงกว่ามูลค่าตลาดโดยรวม (ที่ 5%) ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 8 หมวดธุรกิจ โดยมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

(ตารางเรียงลำดับจาก อัตราการเปลี่ยนแปลงสูงสุด)

 ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 19.6% หรือเพิ่มขึ้น 141,959 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 724,054 ล้านบาท มาเท่ากับ 866,013 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม เช่น DELTA, KCE, HANA

 กระดาษและวัสดุการพิมพ์

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 14.6% หรือเพิ่มขึ้น 1,235 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 8,450 ล้านบาท มาเท่ากับ 9,685 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม UTP

 เงินทุนและหลักทรัพย์

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10.4% หรือเพิ่มขึ้น 68,677 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 659,260 ล้านบาท มาเท่ากับ 727,937 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม เช่น KTC, MTC, SAK, MICRO, KGI, NCAP

 บรรจุภัณฑ์

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10% หรือเพิ่มขึ้น 25,082 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 24,9690 ล้านบาท มาเท่ากับ 27,4772 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม เช่น SCGP, PTL, TPBI

 ธุรกิจการเกษตร

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 8.9% หรือเพิ่มขึ้น 7,314 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 82,221 ล้านบาท มาเท่ากับ 89,535 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม เช่น STA, NER, TRUBB, UPOIC, TWPC

 วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 7.8% หรือเพิ่มขึ้น 5,113 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 65,440 ล้านบาท มาเท่ากับ 70,553 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม เช่น STARK

 ธนาคาร

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 6.8% หรือเพิ่มขึ้น 101,114 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 1,478,179 ล้านบาท มาเท่ากับ 1,579,293 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม เช่น BAY, KTB, TMB, KKP, SCB, TISCO

 พลังงานและสาธารณูปโภค

โดยมูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 6% หรือเพิ่มขึ้น 209,347 ล้านบาท
จากสิ้นปี 2563 ที่ 3,501,223 ล้านบาท มาเท่ากับ 3,710,570 ล้านบาท

 หุ้นที่โดดเด่นในกลุ่ม เช่น EA, BCP, TOP, PTTEP, GPSC, TOP

 หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ

ใครยังสนใจหาหุ้นลงทุน ลองไปดูต่อได้ที่
เปิดโผ 9 หุ้น Laggard (ปันผลสูง PE ต่ำ) กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

Reference
– https://www.set.or.th /

———————————————

สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่

website : https://iyom-bizinspiration.com

facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration