4 กระแสที่คนทำธุรกิจต้องรู้
ทุกครั้งที่ออกเรือ เราคงต้องคำนึงถึง ทิศทางลม กระแสน้ำ ดินฟ้าอากาศ ลูกเรือ หรือแม้แต่พลังของสัญชาตญาณ เพราะทุกอย่างล้วนมีความสำคัญที่จะทำให้เรือลำนี้ แล่นไปสู่จุดหมายปลายทางที่หวังไว้
เฉกเช่นเดียวกันกับการทำธุรกิจ ไม่สำคัญว่าเรือเรา จะลำเล็กหรือลำใหญ่ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การรู้จักอ่านและเข้าใจกระแสให้ออกด้วย ซึ่งกระแสในที่นี้ไม่ใช่แค่หมายรวมถึง กระแสทางการตลาด แต่ต้องประกอบไปด้วย กระแสสังคม กระแสเงิน กระแสโชคชะตาและวงจรชีวิต และสุดท้ายกระแสคน
ลองไปดูในรายละเอียดแต่ละกระแส
กระแสสังคม
กระแสสังคมในที่นี้ รวมถึงกระแสภาพรวมทางเศรษญฐกิจ สังคม ทั้งระดับโลก ระดับประเทศ หรือแม้แต่ระดับขอบข่ายของกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าของเรา เราจำเป็นต้องบอกสภาพแวดล้อมของการทำธุรกิจในภาพใหญ่ ๆ ในช่วง 5 – 10 ปี ต่อจากนี้
เช่น – สหรัฐฯ ที่กำลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่ คือ โจ ไบเดิน จะส่งผลต่อภาพรวมการทำธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศอย่างไร (มีให้อ่าน ให้ฟังแยะเลยครับ)
– จีน ที่ทั้งต้องเตรียมแผนการรับมือสำหรับสงครามการค้าและแผนการที่จะกลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจเบอร์หนึ่งของโลก ส่งผลอย่างไรบ้าง
– หรือการรวมกลุ่มการค้าต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบกับภาพธุรกิจอะไรบ้าง
– กระแสรักษาสิ่งแวดล้อมที่มีความจริงจังและใส่ใจกันมากขึ้น เรามีผลกระทบอะไรหรือไม่
– โควิด-19 จะส่งผลกระทบให้ภาพการทำธุรกิจของคนเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
กระแสเงิน
เมื่อเราเห็นถึงกระแสสังคมและเศรษญฐกิจที่กำลังเปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่จะตามมานั่นคือ การเปลี่ยนแปลงของกระแสเงิน แต่บ่อยครั้งที่เรามักเห็นถึงกระแสสังคมดั่งกล่าว แต่ไม่สามารถมองออกถึงกระแสเงินที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปตามได้ที่จริงการอ่านกระแสของเงินให้ออก ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ขั้นสูงอะไรเลย แค่รู้จักใช้สามัญสำนึกและสัญชาตญานของตัวเองให้เป็นก็พอ
ผมว่าคุณน่าจะเคยฟังเรื่องราวของพนักงานขายรองเท้า 2 คน ที่ถูกส่งไปยังเมืองหนึ่ง เพื่อหาตลาดขายรองเท้าใหม่ ซึ่งพอทั้งสองคนไปถึงเมืองนั้น ก็พบว่า คนทั้งเมืองไม่ใส่รองเท้าเลย จะเป็นเพราะวัฒนธรรมหรือจากสภาพสังคมที่ทำสืบทอดกันมาก็ตามที ทำให้พนักงานขายคนแรก รายงานกลับไปยังบริษัทว่า เมืองนี้ไม่น่าสนใจ ขายรองเท้าไม่ได้แน่ เพราะชาวเมืองไม่ใส่รองเท้ากัน แต่ในขณะที่พนักงานอีกคน รายงานกลับไปยังบริษัทว่า สินค้าเรามีโอกาสประสบความสำเร็จในเมืองนี้แน่นอน เพราะชาวเมืองยังไม่มีใครใช้รองเท้าเลยสักคู่คนคิดว่า พนักงานขายคนไหนเข้าใจในกระแสเงินมากกว่ากัน
กระแสโชคชะตาและวงจรชีวิต
หลายคนอ่านข้อนี้ แล้วอาจเริ่มสงสัย มันเกี่ยวกันด้วยหรอ เกี่ยวครับ เพราะโชคชะตาและวงจรชีวิตของคนเรานั้นมีทั้งขาขึ้นและขาลง เฉกเช่นเดียวกับวงจรเศรษฐกิจและสังคมคุณเคยสังเกตตัวเองไหมครับว่า มีช่วงไหนบ้างที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ราบรื่นไปหมด หรือช่วงไหนไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูแย่ไปหมด พวกที่ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมแต่กลับล้มเหลวกลางคันอาจเพราะอ่านวงจรชีวิตพลาดไปนั่นเอง
ชีวิตของคนเรา มักมีเรื่องของกระแสโชคชะตาเกี่ยวข้องเสมอ ดังนั้น ถ้าอยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจ ต้องรู้ให้ได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง มองให้ออกว่าจะเหยียบคันเร่งไปต่อ หรือเหยียบเบรค แล้วค่อย ๆ ไป
สิ่งสำคัญคือ ช่วงขาขึ้น เราจะรู้สึกแล่นเรือท่ามกลางสภาพอากาศที่เป็นใจ เมื่อถึงตอนนั้นจนกางใบเรือให้เต็มที่ แล้วสู้ให้สุดตัวไปเลย
กระแสคน
การจะอ่านกระแสคนให้ออก คุณต้องรู้จักคบหาผู้คนที่หลากหลาย และอ่านให้ออกว่าคนที่คบหาอยู่เป็นยังไง (ภายใน 5 นาที) เพราะถ้าทำไม่ได้ คุณอาจเจอเรื่องวุ่นว่ายอีกสารพัดเรื่องที่ตามมา แต่อันที่จริงในวัยหนุ่มสาว การต้องเจอเรื่องที่เจ็บปวดบ้างถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันจะกลายเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอนาคต
การมองคนให้ออก ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญมาก ในการทำธุรกิจ เพราะการสร้างทีมของตัวเอง ถ้ามองไม่ออกว่าใครเหมาะสมกับงานไหน ก็ไม่มีทางสร้าง ทีมที่ดีขึ้นมาได้ สิ่งที่ง่ายที่สุดในการสองคนว่าเป็นอย่างไร ให้สังเกต ว่าเขาทำตัวยังไงกับคนที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเขาโดยตรง
เช่น ลองสังเกตดูว่า เขาทำตัวยังไงกับพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหาร หรือแม่บ้านทำความสะอาด นิสัยใจคอ จริง ๆ ของเขาจะปรากฏออกมาให้เห็นตอนนั้นแหละ คนที่มี ความจริงใจจะกล่าวขอบคุณคนเหล่านั้นอย่างสุภาพ ส่วนคนที่ไม่จริงใจ ถึงแม้เขาจะสุภาพกับคุณ แต่จะพูดจาไม่เกรงใจกับคนที่มีสถานะต่ำกว่าตัวเอง
ความสามารถในการอ่านกระแสน้ำและกระแสลม หรือความสามารถในการมองสิ่งต่างๆ ได้อย่างแตกฉาน คือ คุณสมบัติของคนที่จะสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้