เช็คราคา 10 หุ้น กลุ่มเล็กทรอนิกส์ สิ้นเดือน ก.พ.64 เทียบกับสิ้นปี 63
จากโพสก่อนหน้าที่ได้เห็น 8 หมวดธุรกิจที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap.) เพิ่มสูงกว่าตลาดรวม (Outperform) ณ วันที่ 25-2-2564 เทียบกับสิ้นปี 2563 ที่ผ่านมา
โดยหมวดธุรกิจอันดับ 1 ที่ Outperform ตลาดที่สุด คือ กลุ่มธุรกิจการเกษตร มูลค่าตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 51.3% (ในขณะที่ทั้งตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 3.8% เท่านั้น)
ในส่วนหมวดธุรกิจที่ปรับตัวลดลงมากที่สุด (และมากกว่าตลาด) คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่มูลค่าตลาดปรับตัวลดลงเหลือ 6.4 แสนล้านบาท จาก 7.2 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 หายไปเกือบ 8 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 11%
ให้เดาทุกคนน่าจะรู้ว่า DELTA เป็นเหตุสังเกตได้ เนื่องจาก DELTA มีมูลค่าตลาดใหญ่สุดในกลุ่ม ซึ่งราคาลดลงมากสุดถึง 18% จึงทำให้กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในภาพรวมจึงดูแย่ แต่ที่น่าสนใจคือ หุ้นในกลุ่มส่วนใหญ่อีก 8 ตัว กลับปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแบบไม่ธรรมดา วันนี้เลยมาเจาะลึกทั้ง 10 หุ้นในหมวดนี้ว่า เพิ่มลด กันอย่างไรบ้าง
(ข้อมูลเรียงลำดับจาก %การเปลี่ยนแปลงสูงไปต่ำสุด)
1. SMT : บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 4.16 บาท เพิ่มขึ้น 1.5 บาท จาก 2.66 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 56.4% โดยมีค่า PE เท่ากับ 43 เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
2. KCE : บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 12.75 บาท จาก 41.5 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 30.7% โดยมีค่า PE เท่ากับ 57 เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
3. HANA : บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 10.5 บาท จาก 39.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 26.4% โดยมีค่า PE เท่ากับ 23 เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
4. TEAM : บริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 1.3 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท จาก 1.05 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 23.8% โดยมีค่า PE เท่ากับ NA
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
5. METCO : บริษัทมูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 247 บาท เพิ่มขึ้น 47 บาท จาก 200 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 23.5% โดยมีค่า PE เท่ากับ 11 เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
6. NEX : บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 4.7 บาท เพิ่มขึ้น 0.5 บาท จาก 4.2 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 11.9% โดยมีค่า PE เท่ากับ NA เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
7. CCET : บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 2.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.2 บาท จาก 2.16 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 9.3% โดยมีค่า PE เท่ากับ 138 เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
8. SVI : บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 4.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท จาก 4.28 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น 8.9% โดยมีค่า PE เท่ากับ 15 เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
9. W : บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 0.23 บาท เพิ่มขึ้น -0.04 บาท จาก 0.27 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น -14.8% โดยมีค่า PE เท่ากับ NA เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
10. DELTA : บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โดยราคาหุ้นวันที่ 25-2-2564 ปิดที่ 400 บาท เพิ่มขึ้น -86 บาท จาก 486 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 หรือเพิ่มขึ้น -17.7% โดยมีค่า PE เท่ากับ 70 เท่า
ศึกษาข้อมูล Factsheet เพิ่มเติมได้ที่ >
หมายเหตุ : โพสนี้จัดทำขึ้นเพื่่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ชี้นำว่าบริษัทไหนน่าลงทุนกว่าบริษัทไหน หรือผลตอบแทนการลงทุนจะไม่เปลี่ยนไป เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สนใจควรต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการลงทุนเสมอ
Reference
– https://www.set.or.th /
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : https://iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration