สรุปผลกำไร 9 เดือนแรกปี 2563 TOP 5 หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
9 เดือนแรกของปีวิกฤต ที่หลายอุตสาหกรรมต้องเจอภาวะยากลำบาก แต่ในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด ลองไปดูกันว่า TOP 5 หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มีกำไรสุทธิเป็นอย่างไรบ้าง
1. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) : DELTA
– กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 5,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,943 ล้านบาท จาก 2,577 ล้านบาท หรือเพิ่มขึน 114% จาก 9 เดือนแรกของปี 2562
– รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 14% จากความต้องการในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล cloud (cloud storage) และศูนย์ข้อมูล (data center)
– ในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล cloud (cloud storage) และศูนย์ข้อมูล (data center) มีความสามารถทำกำไรสูง อีกทั้งมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้เป็นอย่างดี
– ในส่วนรายได้อื่นๆ 815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% หรือ 257 ล้านบาท (เช่น กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 317 ล้านบาท, รายได้อื่น 346 ล้านบาท, รายได้ทางการเงิน 90 ล้านบาท เป็นต้น)
2. ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส : HANA
– กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 1,207 ล้านบาท ลดลง 39 ล้านบาท จาก 1,246 ล้านบาท หรือลดลง 3% จาก 9 เดือนแรกของปี 2562
– รายได้จากการขายลดลง 9% จากการที่ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อทั้ง PCBA และ IC
– ในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน มีอัตราเพิ่มขึ้นสวนทางกับยอดขายที่ลดลง จากค่าใช้จ่ายบริหารที่มีการจัดประเภทรายการบัญชีค่าใช้จ่ายใหม่ (Reclassification)
– ในส่วนรายได้อื่นๆ เท่ากับ 277 ล้านบาท ลดลงกว่า 335 ล้านบาท (จากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 120 ล้านบาท แต่มีรายได้อื่น 284 ล้านบาท, รายได้ทางการเงิน 111 ล้านบาท เป็นต้น)
3. เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ : KCE
– กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63 ล้านบาท จาก 683 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9% จาก 9 เดือนแรกของปี 2562
– รายได้จากการขายลดลง 12% จากการที่ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ PCB (แต่เริ่มทยอยกลับมาแล้วใน Q3)
– ในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ในอัตราที่มากกว่ายอดขายที่ลดลง เนื่องจากการมาตรการในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหาร และการดำเนินงานอื่นๆ
– ในส่วนรายได้อื่นๆ 221 ล้านบาทเพิ่มขึ้นถึง 57% หรือ 80 ล้านบาท (เป็นรายได้อื่น 214 ล้านบาท)
4. เอสวีไอ : SVI
– กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 242 ล้านบาท จาก 343 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 70% จาก 9 เดือนแรกของปี 2562
– รายได้จากการขายลดลง 2% จากไตรมาสที่ 1 ที่ลดลงถึง 18% จากผลกระทบค่าเงินบาทที่อ่อนค่า แต่ในส่วน Q2 และ Q3 ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น จากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม ระบบเครือข่ายไร้สายสำหรับการสื่อสาร และอุปกรณ์ไมโครอิเล็กทรอนิกส์
– ในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงในอัตราที่มากกว่ายอดขายที่ลดง เนื่องจากการมาตรการในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและการดำเนินงานอื่นๆ
– ในส่วนรายได้อื่นๆ 233 ล้านบาทที่เพิ่มขึ้นถึง 28% หรือ 51 ล้านบาท (กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 174 ล้านบาท, รายได้อื่น 51 ล้านบาท เป็นต้น)
5. แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) : CCET
– กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 255 ล้านบาท ลดลง 269 ล้านบาท จาก 524 ล้านบาท หรือลดลง 51% จาก 9 เดือนแรกของปี 2562
– รายได้จากการขายลดลง 7% (เงินบาท) ขจากผลกระทโควิด-19 ที่ทำให้ซัพพลายเออร์ปิดทำการชั่วคราวในจีนและมาเลเซีย
– ในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีอัตราเพิ่มขึ้น สวนทางกับยอดขายที่ลดง เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายจากการควบรวมบริษัทที่เข้าไปลงทุนเพิ่มเติม และค่าใช้จ่ายการทางการตลาดและค่าใช้จ่ายบริหารในการสนับสนุนลูกค้า
– อีกทั้งมีรายได้อื่น 661 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 83% หรือ 301 ล้านบาท (กำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน 715 ล้านบาท, รายได้อื่น 464 ล้านบาท, ขาดุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 548 ล้านบาท เป็นต้น)
Reference- https://www.set.or.th
———————————————————————————————————
สนใจข้อมูลธุรกิจ การเงิน การลงทุน เล่าให้ฟังเข้าใจง่ายๆ พร้อมทั้งแรงบันดาลใจดีๆ ในการสร้างฝัน ติดตาม iYom Biz+Inspiration ได้ที่
website : iyom-bizinspiration.com
facebook : https://www.facebook.com/iYomBizInspiration/